จ.อยุธยา 7 ส.ค.- นายกรัฐมนตรี เปิดโครงการ “ประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน” นำปลูกต้นยางนา พร้อมเชิญชวนคนไทยปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างธรรมชาติที่สมดุล ยืนยันเข้ามาบริหารประเทศและทำงานอย่างเต็มที่ อนาคตประเทศจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับมือคนไทยทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน” ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 65 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 และร่วมกันศึกษาแนวพระราชดำริ และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้
รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียว ปลูกฝังจิตสำนึก ในการอนุรักษ์ต้นไม้ ทรัพยากรป่าไม้ให้แก่ประชาชน โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับหน่วยงานภาคส่วน ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้มอบกล้าไม้ ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนครศรีอยุธยาด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดโครงการ ขอบคุณประชาชนที่มาร่วมงานกว่า 5,000 คน และถือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาร่วมกันในแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์และมีประวัติศาสตร์ ที่ยาวนาน ทุกคนควรอนุรักษ์แผ่นดินนี้ไว้ รัฐบาลเริ่มโครงการนี้ โดยหวังว่าประชาชนจะเดินตามศาสตร์พระราชา ซึ่งที่ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้น้อมนำแนวทางพัฒนาต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานแนวทางริเริ่มไว้ให้ โดยต้องคำนึงถึงประชาชนให้มากที่สุด โดยเฉพาะโครงการปลูกป่าในใจคน
“รัฐบาลตั้งเป้าการปลูกป่าร้อยละ 40 จะต้องแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะกรณีประชาชนอยู่ในพื้นที่ป่า ก็ต้องหาแนวทางให้คนอยู่ร่วมกับป่าให้ได้ การปลูกต้นไม้ก็ต้องดูความเหมาะสมในการปลูก เลือกชนิดต้นไม้ ให้เป็นร่มเงา คืนความสมดุลให้ธรรมชาติ นำมาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้นสวนสาธารณะ ต่อไป จะต้องปลูกต้นไม้เป็นกลุ่ม ไม่ปลูกเรียงแถวจนแน่น เพื่อง่ายต่อการดูแล” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การปลูกป่า จะต้องเริ่มจากการปลูกป่าในใจ นำไปสู่การปลูกป่าชุมชน เชื่อมโยงไปยังการปลูกป่าใหญ่ เพื่อการดูแลทรัพยากรป่าไม้ในภาพรวมและเป็นป่าต้นน้ำ ตามแนวทางของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จะได้ทั้งผืนป่า และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สวยงาม เช่นเดียวกับต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากให้มีการตั้งศูนย์เพาะพันธุ์ไม้ในท้องถิ่น โดยใช้ทรัพยากรในพื้นที่ และให้ดำเนินโครงการนี้ตลอดไปไม่สิ้นสุด ซึ่งในรัฐบาลนี้ ตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่ได้หยุดยั้งการทำลายทรัพยากรป่าไม้จากนายทุน บริหารจัดการประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ป่า และบริหารจัดการน้ำ เป็นห่วงประชาชนที่อยู่ในช่วงไหล่เขา ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากเพราะมีการทำลายป่าไปมาก จนไม่มีพื้นที่ชะลอน้ำ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งที่ทั่วโลกใช้ด้วยกัน รวมถึงต้องเตรียมรับมือปัญหาอื่น ๆ ในขณะนี้ ทั้งปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งโรคระบาด ก่อการร้ายข้ามชาติ การแข่งขันทางเศรษฐกิจ ปัญหาทุจริต ล้วนเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องรับมือ ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เร่งวางแนวทางไว้ ในรูปแบบยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะต้องได้รับความร่วมมือทุกภาคส่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้ถามประชาชนว่ามีข้อสงสัย หรือมีใครไม่พอใจ คสช. และอยากให้ คสช.ออกไปโดยเร็วหรือไม่ ซึ่งมีประชาชน ตะโกนบอกให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อ ซึ่งนายกรัฐมนตี กล่าวว่า ถือเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่ หลังจากนี้ก็เป็นเรื่องของประชาธิปไตย แต่ยืนยันว่าขณะที่ทุกประเทศมีความร่วมมือด้านการค้าและเศรษฐกิจกับไทยเป็นอย่างดี มีเพียงบางประเทศเท่านั้น ที่ตนไม่สามารถเดินทางไปได้ในฐานะที่เข้ามาควบคุมอำนาจเท่านั้น แต่รัฐมนตรีคนอื่น ๆ สามารถเดินทางไปปฎิบัติภารกิจได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เสียใจ และอยากปฎิบัติหน้าที่ กำหนดนโยบายอยู่ในประเทศอยู่แล้ว และในช่วงระยะเวลานี้ จะมีบุคคลสำคัญเดินทางมายังประเทศไทย และในที่สุดแล้ว รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว และการเข้ามาอยู่ตรงนี้เป็นการถูกลิขิตไว้ ส่วนประเทศจะเดินหน้าต่อ หรือล่มสลายก็ขึ้นอยู่ที่มือของคนไทยทุกคน
ภายหลังกล่าวเปิดงานเสร็จ นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ร่วมกันปลูกต้นยางนา ก่อนพบปะประชาชน และเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินการ ได้แก่ พื้นที่กรรมสิทธิ์ของประชาชน โดยจะแจกกล้าไม้ให้ประชาชนนำไปปลูกในพื้นที่ของตนเอง, พื้นที่ของรัฐทุกประเภท ทั้งพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานราชการ พื้นที่ตามกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรี พื้นที่สาธารณะและสวนสาธารณะ
โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งหวังว่าการจัดโครงการ ประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน จะมีประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาที่คุณ และเฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านกล้า และสามารถฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวในประเทศ ไม่ต่ำกว่า 50,000 ไร่ โดยจะดำเนินการปลูกอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดโครงการ 30 กันยายน 2560 .-สำนักข่าวไทย