ศาลปกครอง 3 ส.ค. ประมงพื้นบ้านสมุทรปราการร้องศาลปกครองเพิกถอนประกาศปิดอ่าวรอบ 2 ชี้ขัดรัฐธรรมนูญ ทำเดือดร้อน – เอื้อประมงพาณิชย์
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย พร้อมด้วยชาวประมงพื้นบ้าน จ.สุมทรปราการ ประมาณ 50 คน เข้ายื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้มีคำพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง ห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สุมทรสาคร กรุงเทพมหานคร สุมทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี ในช่วงเวลาที่กำหนด พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2560
“ประกาศดังกล่าวทำให้ชาวประมงพื้นบ้าน ที่ใช้เรือกลที่มีขนาดต่ำกว่าสิบตันกรอส ทำการประมงในพื้นที่อ่าวไทยรูปตัว ก.ตอนบนระยะรัศมี 3 ไมล์ทะเล ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้อวนที่มีช่องตาอวนต่ำกว่า 5 ซม. จับปลาพื้นถิ่น ที่ไม่ใช่ปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลาแปะกัง ปลาลังเกย ปลากุแล ปลาจวด ซึ่งมีขนาดเล็ก และมีเฉพาะในช่วงฤดูกาลนี้เท่านั้น” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การออกประกาศดังกล่าวยังขัดกับรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 40 และมาตรา 77 เนื่องจากไม่ได้รับฟังความเห็นชาวประมงพื้นบ้านก่อนออกประกาศ ดังนั้น นอกจากขอให้ศาลฯพิพากษาเพิกถอนประกาศฉบับนี้แล้ว ยังขอให้ศาลส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยว่าประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้งได้ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ก่อนมีคำพิพากษาโดยให้สั่งระงับการบังคับใช้ (5) ของประกาศฉบับดังกล่าว ที่ห้ามใช้เครื่องมืออวนที่มีช่องตาอวนต่ำกว่า 5 ซม. จับปลา ไว้ก่อน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงพื้นบ้าน
ด้าน นางราตรี เอกสินชล ชาวประมงสุมทรปราการ กล่าวว่า ที่อ้างว่าเพื่ออนุรักษ์ปลา ไม่ให้จับปลาในช่วงฤดูวางไข่ หรือช่วงลูกปลากำลังโต แต่ปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับจะอยู่ในระยะ 3ไมล์ทะเลจากฝั่ง ปลาพวกนี้เป็นปลาขนาดเล็กอยู่แล้ว และจะชุกชุมในช่วงฤดูกาลนี้ ถ้าจับมาขายไม่ได้ ชาวประมงก็ตาย ไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร จะให้ไปทำนาก็ไม่ได้ เพราะพื้นที่เป็นทะเล การออกประกาศปิดอ่าวรอบ 2 จึงทำให้ชาวประมงพื้นบ้านตาย แต่เอื้อประโยชน์ให้ชาวประมงพานิชย์ขนาดใหญ่ ที่สามารถออกไปทำประมงกลางอ่าวไทยได้ .- สำนักข่าวไทย