นายกฯ ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม สั่งเร่งเยียวยา-สำรวจความเสียหาย

สกลนคร 2 ส.ค. – นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม จ.สกลนคร สั่งเร่งสำรวจความเสียหายเยียวยาประชาชนให้เร็วที่สุดพร้อมให้สำรวจอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เตรียมให้พร้อมรับมือน้ำและหน้าแล้ง ขอทุกคนสามัคคี อย่าขัดแย้ง


เมื่อเวลา 08.40 น.วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางถึงสนามบินค่าย กฤษณ์สีวะรา จ.สกลนคร และรับฟังบรรยายสรุปปัญหา การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจากอธิบดีกรมชลประทาน ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ระยะของการฟื้นฟู สำรวจความเสียหาย คาดว่าในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นจะซ่อมแล้วเสร็จในวันที่ 12 สิงหาคม และมีแนวทางปรับปรุงคันกั้นน้ำให้มีความแข็งแรงกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น



นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยประชาชนและติดตามสถานการณ์น้ำทางสื่อโดยตลอด อีกทั้งให้น้อมนำกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ขอให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างยังยืน โดยการหาแหล่งกักเก็บน้ำปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่เหมาะสม ขุดลอกทางระบายน้ำและน้อมนำแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมน้องนำกระแสรับสั่งมาปฏิบัติ 


นายกรัฐมนตรียังสั่งการขอให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนโดยเร็ว ด้วยการเร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายให้ชัดเจน โดยนำเอาประชาคมมามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันปัญหาการใช้งบประมาณและการร้องเรียน ขณะเดียวกันขอให้สำรวจอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต้องบูรณะซ่อมแซมพร้อมใช้งาน และขุดลอกไม่ให้ตื่นเขิน รัฐบาลก็จะอนุมัติงบประมาณลงไปให้ดำเนินการ เพื่อให้แหล่งเก็บน้ำใช้แก้ปัญหาน้ำแล้งในช่วงหน้าแล้งด้วย โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปช่วยดูแล และจะให้ทหารไปช่วยลงมือทำเพื่อให้เร็วขึ้น

สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ให้เร่งดำเนินการทำสันเขื่อนใหม่ ปรับปรุงเพิ่มความจุน้ำให้มากขึ้น   อีกทั้งยังเน้นย้ำในเรื่องของการสร้างความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดปัญหาจากประชาชน หากไม่ดำเนินการก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ต่อไปนี้ต้องร่วมมือกันอย่าสร้างความขัดแย้ง ขอให้หยุดเรื่องของการเมืองไว้ก่อน เพราะส่วนตัวไม่ได้มาจากการเมือง และพร้อมที่จะทำงานในทุกพื้นที่ให้กับทุกคน ไม่มีการแบ่งแยก 

จากนั้นเดินทางไปยังครัวพระราชทานของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดยได้มอบถุงยังชีพและมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย รายละ 50,000 บาท พร้อมแสดงความห่วงใย เสียใจกับทุกคน ให้ทุกคนเรียนรู้บทเรียนจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ด้วย ยืนยันมาวันนี้ตั้งใจมา แต่ขอให้ทุกคนร่วมมือไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างจะผ่านไปได้หากมีกำลังใจที่ดี 

จากนั้นคณะนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เพื่อร่วมโครงการ Big Cleaning Day ย้อมบ้านล้างเมือง ก่อนจะลงเรือเพื่อเยี่ยมประชานชนที่ประสบอุกทกภัย 

เวลาประมาณ 11.50 น. นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมสะพานเบลีย์ ที่เดิมถูกน้ำกัดเซาะ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.พังขว้าง ตรวจเยี่ยมสภาพพื้นที่ติดตามการซ่อมแซ่มอ่างเก็บน้ำที่ชำรุดจากการถูกน้ำกัดเซาะ

ขณะที่ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ บินตรวจเยี่ยมพื้นที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังสิ้นเสร็จภารกิจ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึง กทม.เวลาประมาณ 16.00 น. 

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมบนถนนสายเศรษฐกิจในตัวเมืองสกลนครลดลงต่อเนื่อง ระดับน้ำเฉลี่ยเหลือราว 30 เซนติเมตร จุดที่ท่วมสูงสุดตอนนี้คือ ย่านชุมชนหนองสนม และถนนโดยรอบ เช่น ถนนรัฐพัฒนา บรรดาร้านค้าต่างเร่งสำรวจเก็บกวาดซากอุปกรณ์เครื่องมือที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลทำความเข้าใจกับผู้ประสบภัยว่าไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องขยะ ส่งเจ้าหน้าที่กระจายลงเก็บทุกพื้นที่ แต่เน้นขยะที่จะเน่าเสียก่อน โดยขยะที่รวมใส่ถุงดำควรมัดให้แน่น หากหลุดจะทำให้เศษขยะกระจายขวางการระบายน้ำได้

สำหรับประชาชนที่เครียดกับสถานการณ์น้ำท่วม มีมุมมองการใช้ชีวิตของผู้ประสบภัยรายหนึ่งเป็นตัวอย่าง ชื่อคุณตาไพศาล โอนอ่อน ข้าราชการบำนาญ วัย 70 ปี อยู่ชุมชนธาตุดุม 2 ริมหนองหาน เขตเทศบาลนครสกลนคร ซึ่งถูกน้ำท่วมเป็นวันที่ 6 เช่นกัน แต่ยังคงนำจักรยานคู่ใจออกมาปั่นออกกำลังกายทุกวัน คุณตาไพศาล บอกว่า ปั่นจักรยานออกจากที่พักเพื่อคลายความเครียดไม่ขาด เพราะไม่อยากเห็นสภาพน้ำท่วม และเอาแต่นั่งจมอยู่กับความทุกข์ นอกจากนี้ตนยังไม่ดูข่าวน้ำท่วม ซึ่งเหมือนเป็นการตอกย้ำให้รู้สึกทุกข์ใจมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]