พาณิชย์ช่วยน้ำท่วมผ่านงาน “GI Market”

นนทบุรี 1 ส.ค. – พาณิชย์ช่วยน้ำท่วม ด้วยน้ำใจ ผ่านงาน GI Market 2017 ครั้งที่ 2 พร้อมยกทัพสินค้า GI ทั่วไทย ยกระดับความภาคภูมิใจอัตลักษณ์ชุมชน


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับเซ็นทรัลจัดงาน GI Market โดยแนวคิดหลักของงาน GI Market คือ เป็นงานที่รวบรวมสินค้า GI ของดี ของแท้ ของหายาก ทั่วประเทศไทยมารวมไว้ในงานเดียว โดยเฉพาะผู้ประกอบการสินค้า GI จากจังหวัดสกลนคร ที่ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้ประกอบการจากจังหวัดสกลนครและเลือกซื้อสินค้า GI ของแท้จากแหล่งผลิต โดยเฉพาะสินค้า GI ที่ผ่านการรับรองคุณภาพ รวมทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการจากชุมชนทราบถึงความต้องการของตลาดระดับพรีเมี่ยมภายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นให้สามารถสร้างความเข้มแข็งจากภายในชุมชน เพื่อสามารถเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืนต่อไป หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดงาน GI Market ครั้งหลังสุด เมื่อเดือนเมษายน 2560 ที่มียอดขายและส่งออกรวมกว่า 10 ล้านบาท

สำหรับการจัดงาน GI Market 2017 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1 -7 สิงหาคม 2560 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต ภายในงานมีการจำหน่ายสินค้า GI ทั่วประเทศ กว่า 60 บูธ เช่น ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร เนื้อโคขุนโพนยางคำ น้ำหมากเม่าสกลนคร ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี สับปะรดบ้านคา ส้มโอปูโกยะรัง ผ้าหมักโคลนหนองสูง กาแฟดงมะไฟ มะพร้าวเกาะพะงัน ทุเรียนป่าละอู  มุกภูเก็ต ครกหินอ่างศิลา กล้วยเล็บมือนางชุมพร สับปะรดภูแลเชียงราย ชาเชียงราย ศิลาดลเชียงใหม่ หมูย่างเมืองตรัง เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Workshop ตลอดทั้ง 7 วัน เช่น ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปียำผักสมุนไพร มัดย้อมผ้าหม้อห้อมแพร่ วาดภาพไก่บนชามไก่ลำปาง ทำขนมจากข้าวเจ๊กเชยเสาไห้ ชงกาแฟดงมะไฟอย่างมีศิลปะ วาดเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง และยำปลาทูแม่กลอง อีกทั้งการแสดงมินิคอนเสิร์ต เพื่อสร้างสีสันและเป็นการดึงดูดประชาชนให้มาร่วม ชิม ชม ช็อป ภายในงาน โดยมีศิลปินชื่อดัง อาทิ อ้น กรกฎ ไนกี้ นิธิดล  ตูมตาม The star  เอ๊ะ จิรากร  บิว กัลยาณี ลำยอง หนองหินห่าว และอาร์ม กรกันต์

สำหรับความคืบหน้าจากความร่วมมือกับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในการจัดมุมจำหน่ายสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ  GI Corner  เพื่อช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายและยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการสินค้า GI ไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น  ปัจจุบันมี GI Corner แล้วที่ Central food hall และ Tops Market  53 สาขา เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ เดอะคริสตัล เซ็นทรัลพลาซาบางนา แจ้งวัฒนะ กาดสวนแก้ว เพชรบุรี ลพบุรี สกลนคร เป็นต้น คาดว่าสิ้นปี 2560 จะมี GI Corner ครบ 100 สาขา

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการช่วยเหลือผู้ประกอบการสกลนครในการออกบูธจำหน่ายสินค้าภายในงาน GI Market 2017 แล้ว ภายหลังน้ำลด กรมฯ มีแผนที่จะลงพื้นที่ถ่ายทำแหล่งผลิตสินค้า GI เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแสดงให้เห็นว่าสินค้า GI ที่ผลิตจากจังหวัดสกลนครเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์พิเศษที่หาจากที่อื่นไม่ได้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของผู้ประกอบการสกลนครที่สามารถฟันฝ่าน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้ไปได้ ปัจจุบันสินค้า GI ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้นทั้งด้านคุณภาพ ความโดดเด่นและเอกลักษณ์พิเศษของสินค้า ขณะเดียวกันชุมชนและจังหวัดต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มากขึ้น 


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยให้ความคุ้มครองด้วยการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยและต่างประเทศแล้ว รวม 93 รายการ เป็นสินค้าไทย 54 จังหวัด 79 รายการ สินค้าต่างประเทศ 8 ประเทศ 14 รายการ โดยสินค้าที่ขึ้นทะเบียนล่าสุดประกาศขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 มี 3 สินค้า ได้แก่ กาแฟเทพเสด็จ (จังหวัดเชียงใหม่) ลำไยเบี้ยวเขียวลำพูน (จังหวัดลำพูน)  และส้มโอหอมควนลัง (จังหวัดสงขลา)ปีงบประมาณ 2560 มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียน 13 คำขอ ได้แก่ ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน กาแฟดอยป่าแป๋ลำพูน (จังหวัดลำพูน) ทุเรียนศรีสะเกษ (จังหวัดศรีสะเกษ) ไวน์เขาใหญ่ กาแฟวังน้ำเขียว ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ (จังหวัดนครราชสีมา) เครื่องปั้นดินเผาบ้านมอญ (จังหวัดนครสวรรค์) ทุเรียนทรายขาว (จังหวัดปัตตานี) ส้มบางมด ลิ้นจี่บางขุนเทียน (กรุงเทพมหานคร) เนื้อโกเบ (Kobe Beef) เนื้อทาจิมะ (Tajima Beef) และเมลอน  ยูบาริ (Yubari Melon) (ประเทศญี่ปุ่น) นอกจากนี้ กรมฯ ได้ดำเนินโครงการ 1 จังหวัด 1 GI เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI อย่างน้อย 1 สินค้าต่อ 1 จังหวัด โดยในปัจจุบันจังหวัดที่ยังไม่มีการยื่นคำขอขึ้นทะเบียนสินค้า GI เหลืออยู่อีก 7 จังหวัด ซึ่งทุกจังหวัดอยู่ระหว่างการดำเนินการร่างคำขอ ทั้งนี้ เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จประเทศไทยจะมีสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้วและกำลังจะขึ้นทะเบียน ครบทั้ง 77 จังหวัดตามนโยบายรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลออกหมายจับ “ลูกก๊กอาน” พร้อมพวกรวม 6 คน ลุยค้น 7 จุด

15 ก.ค.- ศาลออกหมายจับ “ลูกสาว-ลูกชาย” ก๊กอาน พร้อมพวกรวม 6 คน ข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ก่อนลุยค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด ตำรวจไซเบอร์รวบรวมพยานหลักฐานคดีก๊กอาน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ พร้อมยื่นศาลออกหมายจับเครือข่ายก๊กอานเพิ่มอีก 6 คน ประกอบด้วย นางจุฬี หรือเชอร์รี่ นางสาวภูเฌหลิน นายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวและลูกชายก๊กอาน และพวกรวม 6 คน ในฐานความผิดการมีส่วนร่วมในองค์อาชญากรรมข้ามชาติ และพบว่าบุคคลตามหมายจับมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทย รวมถึงมีการขอศาลออกหมายค้น 7 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายหลังศาลออกหมาย นอกจากนี้ ทางกรมปกครองอยู่ระหว่างตรวจสอบความผิดปกติบัตรประชาชนคนไทยของเชอรี่ หลังตำรวจตรวจสอบพบมีข้อมูลน่าสงสัยไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ – สำนักข่าวไทย

“สุชาติ” ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสน เร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุน

ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “สุชาติ” ขอคุยรัฐบาลเร่งแก้ กม.เอาผิดเสพเมถุนในวัด โทษคุก 7 ปี ปรับ 2.4 แสน – รอชงสภาฯ ถก 3 วาระรวด ย้ำวัดห้ามถือครองเงินเกิน 1 แสนบาท ส่วนเกินต้องเข้าบัญชีให้ตรวจสอบ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสงฆ์ โดยการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 206 เพื่อให้สามารถเอาผิดพระสงฆ์กรณีเสพเมถุนได้ว่า ควรแก้ไขกฎหมายดีกว่า เพราะเป็นเรื่องของสถานที่ไม่ใช่ตัวบุคคล โดยรัฐบาลจะเร่งเจรจากับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาเร่งด่วน 3 วาระรวดในคราวเดียว โดยระบุความผิดฐานการเสพเมถุน ทั้งพระ สามเณร หรือสามัญชน ทั้งที่ผิดวินัย และสมัครใจ ก็จะผิดกฎหมาย จะมีโทษทั้งจำคุก 1-7 ปี และปรับสูงสุด 240,000 บาท ซึ่งเบื้องต้น มีร่างแก้ไขกฎหมายเสนอมาแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่พอใจ จึงให้กลับไปแก้ไขก่อน ส่วนกรอบเวลาการแก้ไขกฎหมายให้แล้วเสร็จนั้น นายสุชาติ ระบุว่า […]

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]