ภูมิภาค 1 ส.ค. – สถานการณ์น้ำหลายจังหวัดในภาคอีสานยังน่าห่วง โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ที่ต้องเตรียมรับปริมาณน้ำ ล่าสุดพบพนังกั้นแม่น้ำชี อ.ฆ้องชัย ทรุดตัว 3 จุด
หลังจากเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ต้องเพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 25-30 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากมีปริมาณน้ำในเขื่อนสูงถึงร้อยละ 85 ทำให้ 5 อำเภอท้ายเขื่อน คือ อ.เมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และร่องคำ ต้องเฝ้าระวังเข้ม ด้านจิตอาสา อ.ฆ้องชัย ระดมกำลังนำกระสอบทรายไปเสริมพนังกั้นแม่น้ำชี บริเวณบ้านสะดำสี ต.ลำชี รวมถึงบริเวณบ้านท่าเยี่ยมอีก 2 จุด หลังมีการทรุดตัวคล้ายกับเมื่อปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่
ส่วนที่ จ.มหาสารคาม ปริมาณน้ำในแม่น้ำชีที่สูงขึ้น ทำให้มีน้ำทะลักเข้าท่วมวนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย สูงประมาณ 1-2 เมตร พื้นที่ 125 ไร่ถูกน้ำท่วมกว่าร้อยละ 80 ทำให้ลิงที่อาศัยอยู่ในวนอุทยานฯ ต้องอพยพไปที่อื่น ขาดแคลนอาหารอย่างหนัก
เช่นเดียวกับ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งรับน้ำมาจากอีสานตอนบน ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 27 พร้อมแพทย์ นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายให้ประชาชนใน 3 ตำบล อ.เสลภูมิ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมออกจากบ้านเพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน ขณะที่ปริมาณน้ำในลำน้ำยังเอ่อล้นตลิ่ง แม้ลดลง 1 เมตร แต่ 6 ตำบลยังมีน้ำท่วม
ที่ชัยภูมิ น้ำที่ล้นจากอ่างเก็บน้ำลำคันฉูหลากท่วม อ.จัตุรัส โดยเฉพาะที่ ต.บ้านขาม มี 2 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมรวมกว่า 200 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังพบว่าใกล้เข้าท่วมทางรถไฟในอำเภอ และพบว่ามวลน้ำทั้งหมดจะไหลไปถึง อ.เมืองชัยภูมิ ในช่วง 1-2 วันนี้
ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นมวลน้ำจากลำสะแทด ต.สำพะเนียง อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา ที่ไหลเชี่ยวผ่านใต้สะพาน ถ.ประทาย-โนนแดง และหลากท่วมพื้นที่ลุ่มทางการเกษตร และบางจุดซัดคอสะพานที่กำลังก่อสร้างเสียหาย ทำให้บ้านฉนวน ต.ตลาดไทร ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำต้องเฝ้าระวังเข้ม
และที่ จ.บุรีรัมย์ สำนักงานชลประทานที่ 8 ใช้รถแบ็กโฮตัดถนนเพื่อเปิดช่องทางระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูล เพื่อป้องกันน้ำเหนือจากลำสะแทดที่ไหลมาจากนครราชสีมาเข้าท่วม อ.พุทไธสง และนาโพธิ์ ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวมีปริมาณถึง 130 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ภาพมุมสูงยังพบว่าปริมาณน้ำที่ไหลมาจากนครราชสีมา หลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพันไร่. – สำนักข่าวไทย