ก.แรงงาน เตือนนายจ้างอย่าใช้โบรกเกอร์เถื่อน

ดินแดง1 ส.ค.-อธิบดีกรมการจัดหางาน เตือนนายจ้าง สถานประกอบการอย่าใช้บริการจัดหาแรงงานต่างด้าว จากนายหน้าเถื่อน ย้ำสามารถทำได้ด้วยตนเอง หรือใช้บริการผู้รับอนุญาตนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศอย่างถูกกฎหมาย ป้องกันการสุ่มเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 


นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า  ขณะนี้อยู่ในช่วงระหว่างการยื่นแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าว ที่ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว 100 ศูนย์ทั่วประเทศ ซึ่งเปิดให้บริการแก่นายจ้างที่มีการจ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีเอกสารใดๆ ก่อนวันที่ 23 มิ.ย.2560 มายื่นแบบคำขอจ้างคนต่างด้าว และพิสูจน์การเป็นนายจ้าง-ลูกจ้าง หากพบเป็นนายจ้าง-ลูกจ้างจริง นายจ้างจะได้รับหนังสือรับรองเพื่อให้ลูกจ้างคนต่างด้าวไปพิสูจน์สัญชาติและขออนุญาตทำงานต่อไป ซึ่งนายจ้าง สถานประกอบการก็ได้มายื่นแบบคำขอจ้างคนต่างด้าวแล้วจำนวนกว่า 84,000 ราย ลูกจ้างคนต่างด้าวกว่า 290,000 คน 


อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป็นปัญหา  คือมีกระบวนการนายหน้าเถื่อน อ้างกับนายจ้างหรือผู้ประกอบการว่าสามารถนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศได้ โดยเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในปริมาณสูงตั้งแต่ 9,000 – 12,000 บาท ซึ่งกระทรวงแรงงานขอชี้แจงว่า ผู้ที่จะดำเนินการนำเข้าแรงงานได้นั้นมีเพียง 2 กลุ่ม คือ 1. นายจ้างนำเข้าด้วยตนเอง และ 2. ผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศ (บริษัทนำเข้า) ซึ่งจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นจึงจะดำเนินการได้ และขอย้ำว่า พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวพ.ศ.2560 มีบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบธุรกิจการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 


นอกจากนี้ หากผู้ใดหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศ หรือสามารถหาลูกจ้างซึ่งเป็นคนต่างด้าวให้กับนายจ้าง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงิน หรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 600,000 บาทถึง 1,000,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หรือทั้งจําทั้งปรับ และหากกระทําโดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ต้องระวางโทษหนักกว่าโทษที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งอีกด้วย

นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างในประเทศจำนวน 84 แห่งทั่วประเทศ เป็นผู้รับอนุญาตฯในกรุงเทพฯ 39 แห่ง ส่วนภูมิภาค 45 แห่ง และขอย้ำเตือนกับนายจ้างและผู้ประกอบการให้ใช้บริการของผู้รับอนุญาตฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากผู้ใดพบเห็นหรือถูกกระบวนการนายหน้าเถื่อนหลอกลวง ขอให้แจ้งสำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 ในพื้นที่โดยทันที โทร.สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 ซึ่งกรมการจัดหางานจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทันที .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

เตรียมถมดินอุดหลุมยักษ์ได้พรุ่งนี้ คาดเปิดถนนได้ 9 ต.ค.

กรุงเทพฯ 29 ก.ย. – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ คาดพรุ่งนี้เริ่มถมดินอุดหลุมยักษ์ได้ ระบุ 6 วันที่ผ่านมามีทิศทางดี คาดก่อนเปิดถนน 9 ต.ค. ใช้รถบรรทุกวิ่งทดสอบ สร้างความมั่นใจก่อนเปิดใช้จริง ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหลุมยุบขนาดใหญ่บริเวณหน้า รพ.วชิรพยาบาล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ เริ่มเคลื่อนย้ายท่อเหล็กขนาดใหญ่ เพื่อวันพรุ่งนี้เตรียมจะถมดินลงไปในหลุม บริเวณสถานีตำรวจนครบาลสามเสน ซึ่งเป็นจุดที่ต้องให้ระดับพื้นดินเท่ากันและมั่นคง ทีมวิศวกรจะใช้รถแม็คโครขนาดเล็กดำเนินการขุดและตรวจสอบใต้ท้องอาคาร พร้อมอาจมีการเสริมโครงสร้างชั่วคราวในช่องว่างใต้ฐานราก เพื่อรักษาเสถียรภาพของอาคารไว้ สำหรับการเปิดพื้นผิวจราจร คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นถนนได้ในวันที่ 8 ตุลาคม และเปิดให้รถสัญจรได้ในวันที่ 9 ตุลาคม โดยก่อนเปิดใช้เส้นทางอย่างเป็นทางการ ทางสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะมีการทดสอบความแข็งแรงของพื้นผิวถนนก่อนเปิดใช้งาน เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน โดยเตรียมใช้รถบรรทุกวิ่งผ่าน เพื่อประเมินความแข็งแรง หรือให้เจ้าหน้าที่ทดลองขับรถผ่านก่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือนตุลาคม หากการซ่อมแซมเป็นไปตามแผนก็มีความเป็นไปได้สูงที่ประชาชนจะสามารถกลับเข้าพักอาศัยในอาคารใกล้เคียงได้อีกครั้ง ทั้งนี้ต้องผ่านการประเมินสภาพโครงสร้างอย่างละเอียดก่อน. -415-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที

รัฐสภา 29 ก.ย.-“อนุทิน” นำทีม ครม.แถลงนโยบายรัฐบาล 30 นาที ยันมุ่งมั่นบริหารราชการแผ่นดิน ขับเคลื่อนนโยบาย แก้ปัญหาเฉพาะหน้า-วางรากฐานนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า พร้อมชูโครงการ “คนละครึ่ง” ลดรายจ่าย เร่งดับไฟสงครามไทย-กัมพูชา ประกาศชัดล้มกาสิโนถูก กม .ยึดหลักซื่อสัตย์-ผลประโยชน์ประเทศ การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประะานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นำทีมครม.เข้าแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างพร้อมเพรียง ระบุว่า ครม.ขอแถลงหลักการบริหารราชการแผ่นดิน และนโยบายสำคัญของรัฐบาล จะยึดหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.พิทักษ์รักษาไว้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3.ยึดมั่นหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม บริหารราชการแผ่นดินบนพื้นฐานธรรมาภิบาล นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลเข้าบริหารราชการภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยเผชิญความไม่แน่นอนรอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง […]

“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA

รัฐสภา 29ก.ย.-“สีหศักดิ์” รับเป็นเรื่องดีไทยได้แจงบนเวที UNGA เหตุกัมพูชาพูดตรงข้ามกับสิ่งที่ตกลง เชื่อนานาประเทศเข้าใจไทยมากขึ้น ย้ำไทยเดินบนเส้นทางสันติภาพ ยันไม่ปิดประตูคุยกัมพูชา เชื่อจบในเวทีทวิภาคี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ได้แสดงท่าทีของประเทศไทย และดีใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทุกอย่างทำตามหน้าที่ และจากการพูดคุยก่อนแถลงในที่ประชุม ทั้งมาเลเซีย และสหรัฐอเมริกาอยากให้ไทยและกัมพูชา สามารถพูดคุยกันได้ ซึ่งได้ชี้แจงท่าทีของไทยไปแล้ว และนานาประเทศเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น ที่ผ่านมากัมพูชาได้เสนอข้อมูลฝ่ายเดียว พยายามสร้างความได้เปรียบ ทั้งที่ได้พูดคุยกันแล้วว่า จะมองไปข้างหน้า สิ่งที่ได้ตกลงกันซึ่งควรแสดงความจริงใจ สิ่งที่กัมพูชาขึ้นไปกล่าวถ้อยแถลงนั้นตรงข้ามกับสิ่งที่พูดคุยกัน จึงจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริง นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงเสียงตอบรับจากนานาประเทศ ว่า ได้พูดตามข้อเท็จจริง ซึ่งก็น่าจะเข้าใจ ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา หลังจากนี้เป็นอย่างไร นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ขอคุยกับนายกรัฐมนตรีก่อน พร้อมยอมรับว่ามีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และภายหลังลงจากเวที UNGA ยังไม่ได้พูดคุยกับกัมพูชา แต่ก็พร้อมที่จะพูดคุย และต้องทำตามในสิ่งที่ตกลง ต้องมีความจริงใจ […]

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย