กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมหลายหน่วยงาน รุกเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในทุกมิติ
พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีผู้แทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , กระทรวงมหาดไทย , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , กระทรวงแรงงาน , กองบัญชาการกองทัพไทย , สำนักงานอัยการสูงสุด , สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม , กรมสอบสวนคดีพิเศษ , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน , สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ , ธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผ่านระบบการประชุมทางไกล
ที่ประชุมได้พิจารณากำหนดกลุ่มของหน่วยเฉพาะกิจ และแนวทางการปฏิบัติในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลัก, ด้านการป้องกัน มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลัก และด้านการสืบสวนและการดำเนินคดี มีสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลัก รวมทั้งได้มีการหารือร่วมกันเพื่อวางมาตรการต่างๆ ในการขับเคลื่อนการดำเนินการในทุกมิติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว

พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า การดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องเน้นในประเทศเป็นหลัก โดยต้องเร่งป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะขยับฐานมาในประเทศไทย แล้วขับเคลื่อนไปสู่ต่างประเทศมากขึ้น โดยใช้กลไก UNODC ในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหา โดยต้องมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในและนานาประเทศ ในการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อประโยชน์อย่างสูงสุดในการสืบสวนคดีอาชญากรรมออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นเจ้าภาพประชุมตำรวจสากล โดยมีประเด็นการหารือหลักคือเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะใช้เวทีนี้พูดคุยกับทางประเทศต่างๆ อย่างเป็นทางการ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและการแลกเปลี่ยนข้อมูล ยืนยันว่าจะร่วมกันเดินหน้าเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มข้นและต่อเนื่องต่อไป.-412-สำนักข่าวไทย