หนุ่มถูกเพื่อนชายมอมยารูดทรัยพ์ สร้อยทอง 4 บาท

สมุทรสาคร 31 ก.ค.-หนุ่มวัย 25 ถูกเพื่อนชายเพิ่งรู้จักกัน 3 วัน มอมยารูดทรัพย์ สร้อยทองหนัก 4 บาท คาม่านรูดใน จ.สมุทรสาคร


เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลนาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า มีชายหนุ่มถูกมอมยาอยู่ในอาการมึนงง ภายในห้องพัก จึงได้ให้ตำรวจสายตรวจนาดี เข้าตรวจสอบที่ห้องดังกล่าว พบชายหนุ่มวัย 25 ปี ชื่อนายวา นามสมมติ เป็นพนักงานบริษัทเอกชนจัดหาแรงงานข้ามชาติแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร สภาพอยู่ในอาการมึนงง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว พูดจา ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง และยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ค่อยได้ นอกจากนี้ภายในห้องยังพบเสื้อกล้ามแขวนอยู่ข้างฝา กางเกงยีนส์กับเสื้อยืด กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายมีเงินกว่า 100 บาท และกุญแจรถยนต์กระบะกองอยู่ที่โต๊ะกระจก ส่วนบนโต๊ะข้างเตียงนอน มีแก้วเบียร์ 2 ใบตั้งอยู่ โดยในแก้วยังมีเบียร์เหลืออยู่เกือบครึ่งแก้ว นอกจากนี้ที่พื้นห้องยังพบซองถุงยางอนามัยถูกฉีกทิ้งไว้ 1 ซอง 


นายวา เล่าว่า ตนเองจำชื่อเพื่อนชายที่ก่อเหตุไม่ได้ เพราะยังไม่สร่างจากยา และเพิ่งจะรู้จักกันทางสังคมออนไลน์ได้ประมาณ 3 วัน ตนรู้จากคำบอกเล่าเพียงแค่ว่า มีบ้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่แถวบางบอน จากนั้นก็ได้นัดหมายชวนกันไปเที่ยวแก่งกระจานเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีทั้งหมด 4 คน คือตนและเพื่อนสนิทของตนรวม 3 คน และเพื่อนชายคนใหม่ที่ก่อเหตุอีก 1 คน จากนั้นพอกลับมาตอนค่ำ ตนก็แวะส่งเพื่อน 2 คนกลับบ้านที่ในตัวมหาชัย ส่วนเพื่อนชายที่ก่อเหตุนั้นบอกว่า มืดแล้วไม่อยากกลับเข้าบ้านตอนดึกกลัวพ่อและแม่ดุ ตนจึงพาเข้าไปเปิดห้องพักในโรงแรมม่านรูด แล้วก็สั่งเบียร์มากินกัน 2 ขวด ซึ่งพอตนเองกินเข้าไปแก้วแรกนั้น ก็รู้สึกมึนเหมือนเมามาก พอสักพักหนึ่งก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ครั้นพอตอนเช้ามาตื่นขึ้นมาทั้งที่ยังมึนงง แต่ก็รู้ว่าสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 4 บาท และพระหลวงปู่หลิวเลี่ยมทองหายไป พร้อมกับเพื่อนชายที่มานอนในโรงแรมด้วยกันก็หายไปด้วยอีกคน โชคดีที่ทรัพย์สินอื่นๆ ยังอยู่ครบ รวมถึงรถยนต์กระบะของตนที่ขับมาจอดนอนด้วย


ขณะที่พนักงานโรงแรมม่านรูดบอกว่า เมื่อช่วงเช้ามืดประมาณตี 3 มีพนักงานเห็นผู้ก่อเหตุได้ออกมาจากห้อง แล้วก็ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างออกไป จนกระทั่งเช้ามายังเห็นรถยนต์กระบะจอดอยู่ ก็เข้าไปเคาะเรียกคนที่พักในห้อง ซึ่งก็เห็นหนุ่มผู้เสียหายอยู่เพียงคนเดียว และผู้เสียหายต้องการจะแจ้งความ ทางพนักงานจึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานไว้ ส่วนผู้เสียหายก็ได้ให้นอนพักต่อจนกว่าอาการมึนงงจะดีขึ้น แล้วก็ให้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก