นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

กรุงเทพ30ก.ค.-พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและภาคเอกชนที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางบางส่วน โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีระดับน้ำท่วมสูงมากและประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งสถานการณ์ครั้งนี้เกิดจากสาเหตุทางธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยประเทศเพื่อนบ้านก็ได้รับความเสียหายหนักเช่นกัน


“นายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้นักการเมืองฉวยโอกาสที่ประชาชนเดือดร้อนแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองด้วยการกล่าวโจมตีรัฐบาล และสร้างข่าวลือเพื่อให้ผู้คนเกิดความตื่นตระหนก เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 จะพบว่า สาเหตุเกิดจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาด แม้รัฐบาลรู้ว่ามีปริมาณฝนตกมากแต่ไม่เร่งระบายน้ำ จนเกิดความเสียหายแก่ประเทศอย่างมหาศาล”พลโท สรรเสริญ กล่าว

พลโทสรรเสริญ กล่าวอีกว่านายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า กรมอุตุนิยมวิทยาและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ออกประกาศเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รับทราบข้อมูลสภาพอากาศ พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ ปภ. และอาสาสมัครเตือนภัยออกไปแจ้งข่าวแก่ประชาชนอย่างรวดเร็วตามนโยบายประเทศไทยปลอดภัย หรือ Safety Thailand และนับตั้งแต่ที่ฝนเริ่มตกจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ได้ออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาโดยตลอด รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคเอกชนด้วยวซึ่งนายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทุกเหล่าทัพ เร่งนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพื่อระบายน้ำออกสู่แม่น้ำสายหลักโดยเร็ว พร้อมทั้งกำชับให้แต่ละจังหวัดเตรียมสำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน จำนวนผู้ได้รับผลกระทบ บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป


พลโทสรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้รับรายงานว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้บูรณาการทุกหน่วยงานเพื่อระดมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เช่น รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถสูบน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุก เรือท้องแบน ฯลฯ สนับสนุนปฏิบัติการกู้วิกฤตน้ำท่วม รวมถึงจัดวางแนวกระสอบทรายเป็นคันกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่สำคัญ ตลอดจนจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ด้วย.-สำนักข่าวไทย.

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว