กองทัพบกเร่งช่วยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

กรุงเทพ29ก.ค.-พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่าตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา ทางกองทัพได้ติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง จากอิทธิพลพายุเซนกา ทำให้มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่รวมทั้งเส้นทางสัญจร ถูกตัดขาด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายจังหวัด  ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก และหน่วยทหารในพื้นที่จึงได้เข้าช่วยเหลือประชาชนทันที มีการประสานการช่วยเหลือกับทางจังหวัด โดยกำลังทหารได้ช่วยอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง  สร้างและซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ อำนวยความสะดวกการสัญจร นำรถครัวสนามออกปรุงอาหารแจกจ่าย ดูแลสถานที่สำคัญเช่น โรงพยาบาล พร้อมจัดชุดแพทย์ออกตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัย เป็นต้น โดยมีจิตอาสาจากหลายส่วนเข้าร่วมดูแลประชาชนต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อความเดือดร้อนของประชาชน กำชับให้ทุกหน่วยทหารในพื้นที่ประสบภัยเร่งดูแลประชาชนให้ปลอดภัย และคลี่คลายสถานการณ์ให้ดีที่สุด ทั้งนี้กองทัพบกพร้อมส่งความช่วยเหลือและเครื่องมือบรรเทาภัยพิเศษ เข้าช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมหากมีความต้องการจากพื้นที่


สำหรับภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก รายงานว่า  จ.สกลนคร  ยังคงมีน้ำท่วมเป็นวงกว้างทั้ง 18 อำเภอ ระดับน้ำ 70-150 เซนติเมตร ถนนหลายสายถูกตัดขาด ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2 ระดมสรรพกำลังจาก กองพลทหารราบที่ 6 กองพลพัฒนาที่ 2 และมณทลทหารบกที่ 29 กว่า 800 นาย เข้าสนับสนุนจังหวัดสกลนครในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง, อ.เต่างอย และ อ.พรรณานิคม เนื่องจากน้ำได้ไหลเข้าบ้านเรือนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ จึงได้อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงประชาชน ณ.อาคารโรงยิม ศาลากลางจังหวัดสกลนคร มีประชาชนเข้าพักขณะนี้ 150 คน และ รพ.ค่ายกฤษสีวะรา ได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชน ณ.ศูนย์พักพิงและที่ศาลาวัดป่าสุทธาวาส มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนใหญ่มีความเครียดและกังวล พักผ่อนไม่ได้  

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายวางเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมห้องเอกซเรย์และห้องกำเนิดไฟฟ้า,เคลื่อนย้ายผู้ป่วยวิกฤติจาก รพ.เต่างอย ส่งต่อ รพ.สกลนคร พร้อมทั้งได้จัดรถครัวสนามประกอบอาหารมอบให้ผู้ประสบภัยด้วย ทั้งนี้ในวันนี้จะมีการจัดกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยมทบ.29   ได้จัดประชุมชี้แจงการปฏิบัติพร้อมทั้งกำหนดโซนการช่วยเหลือผู้ประสพภัย ตลอดทั้งการติดต่อสื่อสารในพื้นที่ด้วย


ส่วนในจังหวัดสุโขทัย   ตามที่พนังกั้นน้ำแม่น้ำยมเกิดรอยรั่ว 6 จุดทำให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตเมือง กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งเครื่องมือช่าง และกำลังพลจาก กองพลพัฒนาที่3 ประกอบด้วย รถบรรทุกเทท้าย ,รถไฟฟ้าส่องสว่าง ,รถโกยตักรวม 28 คัน เดินทางไปเสริมการทำงานของทางจังหวัด โดยได้ซ่อมแซมพนังกั้นน้ำและเริ่มควบคุมการผุดของน้ำได้ ตั้งแต่กลางดึกของ28 กรกฎาคม60 และได้เริ่มสูบน้ำกลับแม่น้ำยมทำให้ สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัย เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งเวลา 06.00 น ของวันนี้ ทั้งนี้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสุโขทัย จะยังคงช่วยเหลือประชาชนและเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำยมไหลเข้าสู่เขตตัวเมือง

ด้านจังหวัดกาฬสินธุ์  กรมทหารม้าที่ 6 เข้าช่วยเหลือประชาชน 200 ครัวเรือนขนย้ายสิ่งของ บริเวณ ถนนอนรรฆนาค ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง 

จังหวัดอุบลราชธานี   มณฑลทหารบกที่22 ร่วมกับ ป้องกันภัยจังหวัดอุบลราชธานี เทศบาลวารินชำราบ ,ตำรวจตเวณชายแดนที่22 และชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยกันกรอกกระสอบทราย โดยทหารในพื้นเฝ้าสังเกตุการณ์ พร้อมเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในจุดเสี่ยงเนื่องจากน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง


จังหวัดขอนแก่น  กองพลทหารม้าที่ 3 เข้าช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของ บริเวณหมู่บ้านเกษรและหมู่บ้านชิดชล ต.ศิลา อ.เมือง นอกจากนี้ มณฑลทหารบกที่ 23 ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น และเทศบาลตำบลบ้านเป็ด ให้ความช่วยเหลือประชาชน บริเวณพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่น และเทศบาลตำบลบ้านเป็ด โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น  ตำบลบ้านเป็ด ซึ่งยังคงมีระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ได้อพยพนักเรียนออกจากโรงเรียนส่งให้ผู้ปกครองด้วยความปลอดภัยทุกคน และขนย้ายวัสดุอุปกรณ์การสอนขึ้นชั้น 2 ให้พ้นจากน้ำท่วมแล้ว

จังหวัดระนอง  กรมทหารราบที่ ๒๕  จัดเรือท้องแบนช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน 50 หลังคาเรือนในพื้นที่ ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จังหวัดระนอง พร้อมร่วมกับทางจังหวัดนำเรือท้องแบนแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์และน้ำดื่ม ให้กับประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]