บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-รวบแล้วแก๊งโจ๋รุมซ้อมพลทหารและเพื่อน บาดเจ็บสาหัสก่อนชิงรถจักรยานยนต์หลบหนี ที่แท้เป็นเยาวชนอายุ 14 -16 ปี สารภาพนำไปชำแหละแต่งซิ่งขับแข่งกัน ขณะเจ้าของรถแทบช็อกหลังเห็นสภาพจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยไปเหลือเพียงเศษซาก
จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุรุมทำร้าย พลทหารศุภชัย เจนทน อายุ 21 ปี สังกัดค่ายเอลาวัน ลพบุรี และนายบุญโชค อาญาเมือง อายุ 20 ปี เพื่อนซึ่งขับรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณวงเวียนช้างน้อยในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จนเป็นเหตุให้พลทหารกับเพื่อนได้รับบาดเจ็บสาหัสสลบคาที่เกิดเหตุ ก่อนกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายหลบหนีไปด้วย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุที่รุมทำร้ายพลทหารและเพื่อนได้แล้ว ที่แท้เป็นเยาวชนชายอายุเพียง 14-16 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จำนวน 6 คน ทั้งยังสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลางที่ถูกลักขโมยไปกลับคืนมาด้วย โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำไปซุกซ่อนไว้ที่บริเวณป่าอ้อยบ้านหนองไผ่ ต.บ้านยาง อ.เมือง ซึ่งจากการสอบสวนแก๊งเยาวชนที่ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายพลทหารและเพื่อนจริง เนื่องจากมีปัญหาเขม่นกันในสถานบันเทิง จึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ติดตามกลุ่มผู้บาดเจ็บมาก่อนจะลงมือรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บจนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้นเมื่อขับรถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาก็เห็นรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายยังจอดอยู่ที่เกิดเหตุจึงได้ลงมือลักขโมยไป แล้วนำไปชำแหละเอาเครื่อง ล้อ และอะไหล่อีกหลายชิ้นเพื่อนำไปแต่งรถของตัวเอง แล้วนำไปขับขี่แข่งกัน ส่วนซากรถที่เหลือก็นำไปซ่อนไว้ในป่าอ้อย
จากนั้น พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อม ร.ต.อ.เอกพงษ์ เดชพรมรัมย์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ก็ได้ประสานให้ผู้เสียหายมาติดต่อขอรับรถคืนที่ สภ.เมือง เมื่อนายบุญโชค ผู้เสียหายนำหลักฐานมาติดต่อรับรถ ทันทีที่เห็นสภาพรถของตัวเองก็ถึงกับตกใจ เพราะถูกชำแหละอะไหล่ไปเกือบทั้งคัน แต่ก็ดีใจที่ยังได้คืนและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว เพราะเกรงจะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
ส่วนแก๊งเยาวชนที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 6 คน ถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้านร่างกาย, ร่วมกันลักทรัพย์” ซึ่งหลังจากสอบปากคำแล้วพนักงานสอบสวนก็ได้ควบคุมตัวเยาวชนทั้ง 6 คน ส่งศาลเยาวชนและครอบครัว เพื่อส่งต่อสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก จ.บุรีรัมย์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย