กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองราคาข้าวครึ่งหลังปี 60 พลิกกลับมาดีขึ้น หลังปริมาณสตอกข้าวไทยลด แต่ลุ้นทั้งปีส่งออกตามเป้า 10 ล้านตัน
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ราคาข้าวน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี เนื่องจากผลด้านจิตวิทยาจากปริมาณสตอกข้าวทยอยปรับตัวลดลง จนน่าจะสามารถระบายข้าวได้หมดภายในปี 2560 ผนวกกับความต้องการข้าวจากต่างประเทศที่ยังมีรองรับ เช่น ฟิ ลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังกลาเทศ ศรีลังกา อิรัก อิหร่าน เป็นต้น ส่วนหนึ่งเพื่อความมั่นคงในประเทศจากเหตุประสบภัยธรรมชาติ โดยคาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ราคาข้าวเปลือกเจ้าอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 8,000-8,500 บาทต่อตัน ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ 9,500-10,000 บาทต่อตัน และราคาข้าวเปลือกเหนียว 10,000-11,000 บาทต่อตัน อย่างไรก็ตาม ภาพรวมราคาข้าวทั้งปี 2560 คาดว่าจะยังต่ำกว่าปี 2559 จากผลผลิตข้าวที่ยังอยู่ในระดับสูง
ส่วนปี 2561 เมื่อแรงกดดันด้านจิตวิทยาของปริมาณสตอกข้าวไทยลดลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ราคาข้าวไทยน่าจะขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานตามกลไกตลาดที่น่าจะให้ภาพราคาที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นได้บ้าง เนื่องจากความต้องการข้าวจากตลาดต่างประเทศที่มีรองรับต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาผลผลิตข้าวของประเทศคู่แข่งและคู่ค้าที่อาจกลับมาผลิตได้ตามปกติ หลังจากประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในภาพรวมเช่นกัน ตลอดจนต้องติดตามผลของโครงการภาครัฐในการปลูกข้าวในพื้นที่ศักยภาพและมุ่งเน้นไปที่การผลิตข้าวพรีเมี่ยม เพื่อเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไทยอาจยังต้องเผชิญการแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งอย่างอินเดียและเวียดนาม ซึ่งราคาข้าวเฉลี่ยของไทยสูงกว่าประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน แต่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 ปริมาณการส่งออกข้าวของไทยทำได้ดี ดังนั้น คาดว่าทั้งปี 2560 ไทยอาจส่งออกข้าวอยู่ที่ 10 ล้านตันใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้้งไว้ โดยคำนึงถึงผลกระทบของพระราชกำหนดบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560 ที่อาจมีต่อการขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือแล้วบางส่วน ทั้้งนี้ ในช่วง 6เดือนแรกของปี 2560 ไทยมีปริมาณการส่งออกข้าวอยู่ที่ 5.4 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ เบนิน จีน และแอฟริกาใต้ที่ขยายตัวร้อยละ 43.2, 46.0และ7.1 ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย