fbpx

พยาบาลช่วยน้องนิวเปิดใจเครียด-ท้อแท้

เพชรบุรี 24 ก.ค.-เปิดใจนางพยาบาลที่ให้การช่วยเหลือน้องนิว ผู้ป่วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต เผยหลังมีคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เครียดและท้อแท้อย่างมาก วอนสังคมเห็นใจ



นางสมจิต กายสอน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ประจำห้องตรวจอายุรกรรม งานผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคลิปภาพตนเองระหว่างให้การช่วยเหลือน้องนิว ซึ่งเป็นผู้ป่วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียล ทำให้ถูกกระแสสังคมวิพากย์วิจารณ์ในหลายแง่มุม จนทำให้ตนเองเกิดอาการเครียดและรู้สึกท้อแท้อย่างมาก อีกทั้งหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว ผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาลฯ เมื่อได้พบเห็นกับตนเองก็มองด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิม รู้สึกกดดันเป็นอย่างมากและอึดอัด จึงวอนขอให้สังคมได้เข้าใจถึงหัวอกของพยาบาลทุกคนที่มีความรักในวิชาชีพ มุ่งมั่นช่วยเหลือผู้ป่วยทุกคนแบบไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ผู้ป่วยเหล่านั้นได้กลับมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง นั้นคือความมุ่งหมายสูงสุดของคนเป็นพยาบาล 


นายแพทย์สาธิต รัตนศรีทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า กรณีที่น้องนิว เสียชีวิตขณะรอแพทย์ตรวจวินิจฉัยนั้น ทางโรงพยาบาลฯ ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวน้องนิว ซึ่งในส่วนนี้ตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มาตรา 41 จะมีการช่วยเหลือในเรื่องของการช่วยเหลือเยี่ยวยา เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนจะเป็นการช่วยเหลืออย่างใดนั้นจะต้องดูหลักเกณฑ์การพิจารณ์ตามระเบียบของทางราชการอีกครั้งหนึ่ง โดยหลังจากนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีและโรงพยาบาลพระจอมเกล้าจังหวัดเพชรบุรีจะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปดูแลและทำความเข้าใจกับญาติของน้องนิว ส่วนในเรื่องของการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น คงจะไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพราะมีการรายงานข้อมูลข้อเท็จจริงให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว อีกทั้งก็ไม่ได้เป็นเรื่องของความผิดอะไรทางละเมิดที่จะต้องตั้งคณะกรรมสอบข้อเท็จจริง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย