fbpx

ปลัดพาณิชย์ยันมีกลไกดูแลราคาน้ำตาลทั้งระบบ

นนทบุรี 24 ก.ค. – ปลัดพาณิชย์ยืนยันยังดูแลให้น้ำตาลทรายเป็นรายการสินค้าควบคุม แม้จะลอยตัว เตรียมกำหนดกลไกดูแลไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค 


น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน เพื่อเตรียมมาตรการและกลไกดูแลระบบราคาน้ำตาลลอยตัวแบบมีการจัดการ หลังจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) มีมติประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลเดือนตุลาคม 2560 และให้มีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศวันที่ 1 ธันวาคม 2560 และให้ทันฤดูการผลิต 2560/2561 ว่า ปัจจุบันน้ำตาลทรายเป็นสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุมตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยกำหนดเพดานราคาขายปลีกสูงสุดไม่เกินกิโลกรัมละ 23.50 บาท หากมีการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายแบบมีการจัดการตามกลไกตลาดโลก ทางกระทรวงพาณิชย์จะต้องเตรียมกลไกดูแลราคาน้ำตาลทรายในประเทศ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อนและไม่กระทบกับเกษตรกร 

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นการดูแลราคาน้ำตาลทรายภายใต้กฎหมายราคาสินค้าและบริการสามารถจะให้ น้ำตาลทรายยังอยู่ในรายการสินค้าควบคุมได้ เนื่องจากน้ำตาลทรายเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ แต่การกำหนดเกณฑ์ราคาที่ต้องอิงตามกลไกตลาดโลกนั้น อาจจะต้องมีกลไกการออกราคาแนะนำ เพื่อให้ ผู้บริโภคและพ่อค้าแม่ค้า ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ทราบราคาที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งผู้ประกอบการที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารก็จะต้องมีโครงสร้างราคาสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตมากำกับดูแลด้วย  


ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปเตรียมมาตรการทั้งหมด ซึ่งหลักการทางกระทรวงฯ จะรอให้การแก้ไข พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลฉบับใหม่เสร็จก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาชั้นกรรมาธิการในที่ประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. ) 

“แม้จะปล่อยให้ราคาน้ำตาลลอยตัวแบบมีการจัดการ แต่กระทรวงพาณิชย์ยืนยันจะดูแลไม่ให้กระทบกับผู้บริโภคและราคาน้ำตาลทรายในประเทศจะไม่แพงขึ้นกว่าปัจจุบัน“ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว 

สำหรับราคาน้ำตาลทรายปัจจุบัน แม้กระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเพดานราคาควบคุมไว้ที่ 23.50 บาทต่อกิโลกรัม แต่ในตลาดขายจริงกิโลกรัมละ 19 -20 บาท ต่ำกว่าราคาควบคุม เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกขณะนี้ยังทรงตัวต่ำ  


ส่วนกรณีรัฐบาลบราซิลฟ้องร้องประเทศไทยว่ามีการอุดหนุนราคาส่งออกน้ำตาลนั้น หลังจากหารือกับบราซิล ทางบราซิลเข้าใจประเทศไทยมากขึ้นว่าไทยมีความกังวลเรื่องการดูแลราคาสินค้าในประเทศอย่างมาก เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ทำให้บราซิลยังไม่ได้มีการตั้ง panel ในองค์การการค้าโลก (WTO) ฟ้องร้องไทย สำหรับไทยเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิลที่เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1  

นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า น้ำตาลทรายเป็นสินค้าจำเป็นที่อยู่ในบัญชีควบคุมตามประกาศของ กกร. ปัจจุบันราคาน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ภายในประเทศอยู่ที่กิโลกรัมละ 23.50 บาท และน้ำตาลทรายขาวอยู่ที่กิโลกรัมละ 22.50 บาท โดยเป็นราคาจำหน่ายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนการขายปลีกในต่างจังหวัด ทางจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดจะเป็นผู้กำกับดูแลราคาจำหน่าย โดยจะคิดรวมกับค่าขนส่ง สำหรับราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดโลกเทียบกับราคาโรงงานปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 14-15 บาท ขณะที่ของไทยกำหนดราคาน้ำตาลทรายขาวหน้าโรงงานไว้ที่กิโลกรัมละ 19 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์กิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งเป็นราคาบวกเงินเก็บเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายที่กิโลกรัมละ 5 บาท

ส่วนกรณีที่ กอน.เตรียมประกาศลอยตัวราคาน้ำตาลทรายแบบมีการจัดการปลายปีนี้ ขณะนี้อยู่ขั้นตอนการพิจารณาเพื่อหาแนวทางว่าจะเป็นไปในรูปแบบใด แต่เชื่อว่าการลอยตัวน้ำตาลทรายแบบมีการจัดการครั้งนี้จะทำให้ราคาน้ำตาลในประเทศลดลง ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยควบคุมราคาขายปลีกน้ำตาลทรายและแม้ว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะประกาศลอยตัวหากราคาสูงเกินความเหมาะสม กระทรวงพาณิชย์สามารถใช้กฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการเข้ามากำกับดูแลได้ ส่วนการกำหนดโควตาน้ำตาลทราย ก ข และ ค กระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะมีการยกเลิก หรือคงไว้ตามเดิม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเมื่อมีการลอยตัวน้ำตาลแบบมีการจัดการราคาจะไม่สูงไปจากเดิม ยกเว้นกรณีเกิดภัยแล้ง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ราคาน้ำตาลตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่วนการส่งออกน้ำตาลทรายไทยส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลกเฉลี่ยปีละ 7 ล้านตัน เป็นรองประเทศบราซิลที่ส่งออกปีละ 27 ล้านตัน และอันดับ 3 ออสเตรียส่งออกปีละ 4 ล้านตัน โดยตลาดหลัก ได้แก่ อาเซียน และเอเชีย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง