ปทุมธานี 24 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าสร้างเครือข่ายศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตรสู่นวัตกรรมไทยแลนด์ 4.0 ด้านตัวแทนเกษตรกรให้กำลังใจ รมว.เกษตรฯ สานต่อโครงการ-สร้างความเข้มแข็งเกษตรกร
นายสุวัฒน์ เจียระคงมั่น รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนา “เครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรข้าว สู่นวัตกรรมไทยแลนด์ 4.0” รุ่นที่ 3 ว่า โครงการนี้ช่วยพัฒนาเกษตรกรและสร้างเครือข่ายเจ้าของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรด้านข้าวให้เข้าถึงนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมยกระดับศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรด้านข้าวให้สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต การบริหารจัดการ และการตลาดด้านข้าวแก่เกษตรกร ช่วยขับเคลื่อนชุมชนเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งเน้นการขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยคัดเลือกเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาการผลิตมาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้เกษตรกรในท้องถิ่น พร้อมจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรในพื้นที่ของเกษตรกรต้นแบบ เพื่อเป็นจุดศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรระดับชุมชนที่เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้
นายเชิดชัย จิณะแสน ประธานกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) กล่าวว่า ปัจจุบันมีศูนย์เรียนรู้ฯ ทั่วประเทศ 882 ศูนย์ ในจำนวนนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ที่มีข้าวเป็นสินค้าหลัก 450 ศูนย์ ซึ่งการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต การบริหารจัดการ การจำหน่าย ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรนอกจากนี้ จะเดินหน้าโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน วงเงิน 22,752 ล้านบาท ตั้งเป้าชุมชนเข้าร่วมโครงการ 9,101 ชุมชน ขณะนี้มีกลุ่มเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 1.77 ล้านราย และมีเกษตรกรผู้ที่เข้ามาเรียนรู้และได้รับประโยชน์ทั่วประเทศมากกว่า 7.68 ล้านคน กลไกสำคัญ คือ การดึงเกษตรกรมามีส่วนร่วมตัดสินใจแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร โดย ศพก.และเครือข่ายทั่วประเทศ 10,500 แห่ง ช่วยผลักดันการดำเนินงาน
ส่วนกรณีที่ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การปรับคณะรัฐมนตรี” โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 80.32 เห็นควรปรับ ครม.และกระทรวงที่ต้องการให้มีการสลับสับเปลี่ยนการทำงานของคณะรัฐมนตรีมากที่สุด คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 18.40 นั้น นายเชิดชัย กล่าวว่า ขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะรัฐมนตรีในการเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพราะที่ผ่านมานโยบายสนับสนุนด้านการเกษตรของรัฐบาล ทั้งการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร สร้าง Smart Farmer การเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยให้มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำเกษตรแปลงใหญ่ช่วยให้เกษตรกรรวมตัวทำการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าเกษตร ช่วยสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตดีขึ้นให้กับเกษตรกรอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย