กรุงเทพฯ 22 ก.ค.-ก.เกษตรฯ-ก.พาณิชย์ ลงพื้นที่อีสาน มุ่งส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ครบวงจร
ดูแลเกษตรกร-ค่าครองชีพ
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรและแผนปฏิบัติงานเกษตรอินทรีย์
พร้อมพบปะเกษตรกรในพื้นที่แปลงใหญ่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ ว่า ได้ประชุมติดตามการดำเนินงานในเรื่องข้าวครบวงจร
นาแปลงใหญ่ และเกษตรอินทรีย์ โดยมีโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2560 ให้ได้การรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์
มีเป้าหมายในปี 2560 พื้นที่ 300,000 ไร่ เกษตรกร 20,000 ราย โดยได้มีการรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ ผ่าน Single Command แล้ว รวมทั้งหมด 1,242 กลุ่ม เกษตรกร 28,749 ราย พื้นที่ 308,103.98 ไร่ แบ่งเป็น กลุ่ม
เตรียมความพร้อม จำนวน 1,178 กลุ่ม เกษตรกร 27,164 ราย พื้นที่ 290,177.62 ไร่ และกลุ่มตรวจรับรองเข้าสู่ระบบระยะปรับเปลี่ยน จำนวน 64 กลุ่ม เกษตรกร 1,585 ราย พื้นที่ 17,926.36 ไร่ นอกจากนี้
จะมีการอบรมเชิงปฏิบัติการการผลิตข้าวตามมาตรฐานข้าวอินทรีย์ (Organic Thailand) และระบบควบคุมภายใน (ICS) ให้แก่เกษตรกร ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมแผนการอบรม ภายในเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2560 ด้วย
“การผลิตข้าวอินทรีย์ ถือเป็นการรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ให้มีความสมดุล
รักษาสภาพแวดล้อมของชุมชน ประชากรในชุมชนมีสุขภาพดี นอกจากนี้
ยังเป็นการสร้างกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชุมชนอื่น ๆ และกลุ่มเกษตรกรมีความพร้อมสำหรับการผลิตข้าวอินทรีย์ตามมาตรฐานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย” นางสาวชุติมา กล่าว
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยว่า วันนี้ ( 22 ก.ค. 2560 )
ได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของทีมสำนักงานพาณิชย์จังหวัด (One Roof) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น
โดยได้ใช้โอกาสนี้มอบนโยบายการทำงานให้กับทีมพาณิชย์ให้ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพน้อยของกระทรวงพาณิชย์ ในส่วนภูมิภาค
จะต้องทำงานเหมือนกับเป็นกระทรวงพาณิชย์ย่อมๆ ในต่างจังหวัด
มีหน้าที่ในการดูแลเกษตรกร ดูแลประชาชนด้านค่าครองชีพ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการ
และหากพื้นที่ไหนติดชายแดนก็จะต้องทำการส่งเสริมการค้าชายแดนด้วย
ทั้งนี้ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าว ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอ้อย
ซึ่งพาณิชย์จังหวัดจะต้องดูว่าจะเข้าไปช่วยเหลือและประสานหาตลาดรองรับผลผลิตเหล่านี้ได้ยังไง
โดยต้องมีการทำแผนล่วงหน้าทุกตัว เพื่อป้องกันปัญหาด้านราคาตกต่ำ
และยังพบว่าขอนแก่นเป็นพื้นที่ที่มีการเพาะปลูกสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นจำนวนมาก
ก็ต้องเข้าไปช่วยส่งเสริมและจัดหาตลาดรองรับให้กับผลผลิตเหล่านี้
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า
ในการเดินทางไปครั้งนี้
ได้เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่
(กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ ตำบลในเมือง บ้านโสกจาน หมู่ 3 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น
เพื่อติดตามความสำเร็จของการรวมตัวปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ที่ช่วยลดต้นทุน
และทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น เพราะกระทรวงฯ ได้ช่วยในการเชื่อมโยงตลาด
โดยดึงโรงสีมาช่วยรับซื้อผลผลิต ทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาดีกว่าปกติ
จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัท บุญทันฟู้ดส์
(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตร
โดยมีสินค้าที่โดดเด่น คือ มันสำปะหลังทอดกรอบ มันสำปะหลังเชื่อมบรรจุกระป๋อง
ขนมกรุบกรอบ ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่ได้ใช้นวัตกรรมเข้ามาแปรรูปสินค้าเกษตร
ถือเป็นแบบอย่างให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ และเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงฯ
ที่ต้องการผลักดันให้เกิดผู้ผลิตที่นำวัตถุดิบทางการเกษตรไปแปรรูปและใช้นวัตกรรมเข้ามาผลิตสินค้าให้มากขึ้น –สำนักข่าวไทย