รมว.พลังงานย้ำเสนอ ครม.เดือน ก.ค.นี้เปิดประมูลปิโตรเลียม

กรุงเทพฯ 21 ก.ค. – รมว.พลังงานย้ำเสนอ ครม. เดือน ก.ค. เพื่อเห็นชอบเปิดประมูล 2 แหล่งปิโตรเลียม และเดินหน้าแผนประหยัดพลังงานให้ได้ร้อยละ 30 ตามแผน โดยเฉพาะแผนด้านขนส่งที่พลาดเป้าหลังราคาน้ำมันดิ่ง



พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเยี่ยมชมอาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ ต.คลองห้า จ.ปทุมธานี ว่า อาคารแห่งนี้ถือเป็นหน่วยงานสำคัญหนึ่งของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) สำหรับจัดฝึกอบรมด้านการอนุรักษ์พลังงานให้กับบุคลากรของโรงงานและอาคารควบคุม และนอกข่ายควบคุม หรือ SME ซึ่งจะช่วยทำให้แผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (2558-2579 )หรือ EEP ประสบสำเร็จตามเป้าหมายร้อยละ 30  อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินการจนถึงปัจจุบันพบว่า จากราคาน้ำมันที่ลดลง ก็ทำให้แผนด้านขนส่งไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปฏิบัติได้เพียงร้อยละ 60 เท่านั้น แต่ในส่วนไฟฟ้าปฏิบัติได้ถึงร้อยละ 91 ดังนั้น แผนด้านขนส่งจึงวางเป้าหมายเร่งรัดมากขึ้นทั้ง 11 แผน เช่น การส่งเสริมขนส่งน้ำมันทางท่อ การส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า และอื่น ๆ 


พลเอกอนันตพร กล่าวด้วยว่า เดือนกรกฎาคมนี้ได้เสนอ ครม.ในการขอเปิดประมูลแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมที่หมดอายุปี 2565-2566 คือ แหล่งเอราวัณและบงกช ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะบรรจุในวาระเมื่อใด โดยเป้าหมายอยากจะเปิดประมูลคัดเลือกเดือนสิงหาคม แต่หากล่าช้าไปจนถึงเดือนกันยายน ก็คงไม่เป็นไร โดยจะคัดเลือกให้เสร็จสิ้นต้นปี 2561 ซึ่งรูปแบบการประมูลจะเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี ) หรือสัมปทาน ก็ขอระบุความชัดเจน หลัง ครม.เห็นชอบ นอกจากนี้ ในเร็ว ๆ นี้จะเสนอรายชื่อปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่แทนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ที่จะเกษียณอายุเดือนกันยายนปีนี้ โดยยืนยันว่าเป็นบุคคลภายในไม่ได้มาจากกระทรวงอื่น ๆ

พลเอกอนันตพร กล่าวว่า ยังเชิญชวนบุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการ นักเรียน นักศึกษา  มาเยี่ยมเยียนอาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ โดย พพ.จะถ่ายทอดองค์ความรู้ มีการแสดงนิทรรศการประหยัดพลังงาน และเป็นศูนย์ฝึกอบรมสร้างบุคลากรด้านพลังงานที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ มีหลักสูตรการอบรม 3 ลักษณะ คือ 1.การฝึกอบรมภาคบังคับตาม พ.ร.บ.กำหนด 2.การฝึกอบรมสนับสนุนการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. และ 3.การพัฒนาหลักสูตรตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป รวมทั้งหลักสูตรที่ตอบสนองนโยบายของกระทรวงพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรต่าง ๆ ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติของ สพบ.ไปประมาณ 11,950 คนต่อปี และตั้งแต่ปี 2535 ได้มีการฝึกอบรมไปแล้วรวมทั้งสิ้นประมาณ 174,400 คน 


ด้านนายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดี พพ.กล่าวว่า อาคารอนุรักษ์พลังงานเฉลิมพระเกียรติ คลอง 5 ปัจจุบันเป็นที่น่ายินดี ว่า อาคารฯ แห่งนี้จะผ่านมาตรฐานการจัดการพลังงาน ISO 50001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่โรงงานและอาคารควบคุมในการจัดการพลังงาน และนับเป็นอาคารภาครัฐกลุ่มแรกที่จะได้รับรองมาตรฐานนี้ ทั้งนี้ ในประเทศไทยมีหน่วยงานประเภทโรงงานอาคารที่ได้รับรองแล้วเพียง 138 แห่ง และจากทั่วโลกมีองค์กรหน่วยงานที่ได้รับรองประมาณ 11,985 แห่ง

ทั้งนี้ ระบบการจัดการพลังงาน ISO 50001 ดังกล่าว เป็นมาตรฐานที่มีการควบคุมองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีผลต่อปริมาณการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน ได้ต่อเนื่อง โดย พพ.ยังได้นำมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง คือ ISO 50004:2014 และ ISO 50006:2014 มาพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมภาคบังคับ เพื่อให้มีมาตรฐานสูงขึ้นและช่วยสนับสนุนมาตรการประหยัดพลังงานในโรงงานและอาคารควบคุมตามแผนอนุรักษ์พลังงานให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง และตะวันออก ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ