กระทรวงแรงงาน 19 ก.ค.- กพร.ปช.เห็นชอบ 2 ยุทธศาสตร์บริการสุขภาพและอาหาร เร่งพัฒนากำลังแรงงานป้อน หลังพบ 2 สาขา ขาดแรงงานรวมกว่า 1.8 แสนคน
นายธีระพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ(กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2560 โดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 2 ยุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนสำหรับอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ พ.ศ.2561-2565 ภายใน5 ปี สาขานี้ ต้องการแรงงานจำนวน 56,500 คน แบ่งเป็นภาคการผลิตหรือภาคการศึกษา 28,500 คน และภาคการพัฒนาฝีมือจากกระทรวงแรงงานและอื่นๆ ประมาณ 28,000 คน ซึ่งจะต้องเร่งพัฒนาบุคลากรให้มีความพร้อม มีความรู้ ทักษะ เนื่องจากภาคการบริการสุขภาพ สร้างรายได้ให้ประเทศประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มขยายตัวขึ้น
นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังแรงงานในอุตสาหกรรมอาหาร พ.ศ.2561-2565 ที่เกี่ยวเนื่องกับการแปรรูป วัตถุดิบด้วย เนื่องจากส่วนนี้มีความต้องการแรงงานทั้งจากภาคการศึกษาและภาคการพัฒนา รวม 1.3 แสนคน ยุทธศาสตร์นี้มีจุดเด่นในการพัฒนาบุคลากร ที่จะเน้นผลิตนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ช่างเทคนิค รวมกว่า 9,600 คน จะบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน พร้อมเน้นพัฒนาบุคลากรในกลุ่ม sme จำนวน 4.5 หมื่นคน รวมถึงอุตสาหกรรมที่ดำเนินการพัฒนาแรงงานอยู่แล้ว ก็จะเข้าไปช่วยยกระดับขึ้นอีก ภายใต้ พรบ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน 7.2 หมื่นคน ตรงนี้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ร้อยละ 100 และเห็นชอบจัดตั้ง สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมอาหารขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย เพื่อจะได้ทำงานเรื่องเหล่านี้ให้เป็นระบบสอดคล้องนโยบายรัฐ หลังจากนี้ กพร.ปช. จะเสนอต่อคณะ รัฐมนตรีเพื่อพิจารณาเป็นยุทธศาตร์หลักในการขับเคลื่อนพัฒนาแรงงานด้านบริการสุขภาพและอาหารต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังได้ตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการระบบข้อมูล ด้านแรง งาน รองรับการพัฒนากำลังคนระดับชาติ เพื่อรวบรวมการฝึกอบรมบุคลากร 47 หน่วยงาน 13 กระทรวง ที่อาจเกิดการฝึกอบรมซ้ำในบางหน่วยงาน บางกระทรวง ให้มาอยู่ในถังข้อมูลของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล การฝึกจะได้ไม่ซ้ำกันด้วย.-สำนักข่าวไทย
