ครอบครัวผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ ยังทำใจไม่ได้สูญเสียสมาชิก 8 ชีวิต

กระบี่ 17 ก.ค-แม้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถคุมตัวคนร้ายและผู้ต้องสงสัย 9 คน ในคดีฆ่าโหด 8 ศพ ครอบครัวผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง ได้ทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับในเบื้องต้น 7 คน ที่อยู่ในเหตุการสังหารโหดใน 1-2 วันข้างหน้านี้ แต่ความรู้สึกลึกๆ ของครอบครัวผู้สูญเสียยังคงวิตกกังวล และทำใจไม่ได้กับเหตุการที่เกิดขึ้น


นายจรีย์ บุตรเติบ วัย 58 ปี พ่อตาของผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง ซึ่งเป็นผู้สูญเสียทั้งลูกสาว 2 คน ลูกเขย 3 คน และหลานสาววัยกำลังน่ารักอีก 3 คน จากเหตุการณ์สังหารโหด 8 ศพ ที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน ใน ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้ทุกวันหลังจากนั้น เขาและคนในครอบครัวจะเดินทางมาที่กุโบร์แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ฝังศพคนในครอบครัวทั้ง 8 ศพ เพื่อสวดอัลกุรอาน อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับ


แม้วันนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมตัวคนร้ายและผู้ต้องสงสัยรวม 9 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุ 7 คน และหนึ่งในนั้นคือ นายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือบังฟัต ญาติ ที่เป็นผู้สั่งการและลงมือก่อเหตุ และแม้เวลาจะผ่านพ้นมาแล้ว 7 วัน แต่ป๊ะจรีย์ ยังคงมีอาการเครียดและกังวลใจอย่างมาก โดยเฉพาะภารกิจที่หนักอึ้งหลังจากนี้ ซึ่งเขาจะต้องทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ของครอบครัว ในการเลี้ยงดูบุตรหลาน และภาระหนี้สินข้างหน้าของผู้เสียชีวิต ที่ยังไม่รู้ว่าจะมีมากเพียงใด รวมทั้งที่อยู่อาศัย ในขณะนี้อาจถูกธนาคารยึดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากโฉนดที่ดินแปลงที่อาศัยอยู่ถูกโอนเป็นชื่อของ บังฟัต และมีการนำไปจำนองไว้กับธนาคาร

เช่นเดียวกับ นางอาสา บุตรเติบ ภรรยาของนายจรีย์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ยายของผู้ใหญ่บ้าน ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์โหดร้ายที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว นางอาสาบอกว่า เสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่าคนใกล้ชิดจะกระทำกับเด็กไร้เดียงสา โดยตอนนี้เธอต้องทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูหลานวัย 3 เดือน ผู้รอดชีวิต ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังมีอาการหวาดผวา และไม่ยอมดื่มนมขวด เนื่องจากที่ผ่านมาแม่ของหลาน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต จะให้ลูกดื่มนมแม่ แต่มาวันนี้หลานต้องหย่านมก่อนวัยที่สมควร เพราะคนร้ายมาพรากแม่ไปจากเขา


ขณะที่ตลอดทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับคนร้าย ซึ่งขณะนี้มีการควบคุมตัวแล้ว 9 คน ที่กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จำนวน 7 คน เป็นผู้ร่วมลงมือก่อเหตุ 1 ในนั้นคือ ซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล นายทุนปล่อยกู้ รับจำนำจำนองที่ดิน ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นผู้สั่งการและลงมือฆ่า 8 ศพ จากปมขัดแย้งเรื่องการจำนองที่ดิน ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกที่เหลืออีก 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงที่ถูกระบุว่า อาจมีส่วนรู้เห็นและเคยร่วมในการพยายามก่อเหตุก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นเพียงพยานแวดล้อม

พล.ต.อ.สุรชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ 10 ยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานจำนวนมาก และคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ จะสามารถออกหมายจับ 7 คนร้ายที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ