หลายปัจจัยหนุนยอดจดทะเบียนตั้งใหม่ มิ.ย.โตต่อเนื่อง

นนทบุรี 17 ก.ค. – อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยหลายปัจจัยหนุนยอดจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่เดือนมิถุนายนยังโตต่อเนื่อง คาดทั้งปีทะลุเป้า 66,000 ราย พร้อมส่งทีมตรวจสอบการเข้ามาทำธุรกิจต่างชาติในไทยให้เป็นไปตามกฎหมาย


น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ยอดการจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการเดือนมิถุนายน 2560 และครึ่งปีแรก 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 6,525 ราย เพิ่มขึ้น 693 ราย คิดเป็นร้อยละ  12 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 5,832 ราย และเพิ่มขึ้น 609 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 5,916 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิก 1,548 ราย เพิ่มขึ้น 474 ราย คิดเป็นร้อนละ 44 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,074 ราย และเพิ่มขึ้น 156 ราย คิดเป็นร้อยละ  11 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2559ซึ่งมีจำนวน 1,392 ราย ขณะที่มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เดือนมิถุนายน 2560 มีทั้งสิ้น 40,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,505 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ  30 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 31,411 ล้านบาท และมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 23,114 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 130 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 17,802 ล้านบาท

ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 610 ราย รองลงมาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 354 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ  198 ราย ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร 168 ราย และธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า 142 ราย ตามลำดับ ส่วนห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 มิถุนายน 60) 1,396,254 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 21.00 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการทั่วประเทศ  665,618 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 16.22 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น บริษัทจำกัด 484,649 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,174 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,795 ราย 


อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีแรก 2560 มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 35,942 ราย  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3,446 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเพิ่มขึ้น  4,150 ราย คิดเป็นรัอยละ  13 สำหรับการจดทะเบียนเลิกครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 6,481 ราย ลดลง  7,623 ราย คิดเป็น ร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับครึ่งปีหลังที่ผ่านมา และเมื่อเทียบเป็นมูลค่าการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท 35,942 ราย มีมูลค่าทั้งสิ้น 164,281 ล้านบาท จะเห็นได้ว่านิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น 4,150 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งมีจำนวน 31,792 ราย เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เห็นได้จากการบริโภคภาคเอกชนที่มีทิศทางฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ ประกอบกับ มีเม็ดเงินจากภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับครัวเรือนตลอดจนภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวได้ดีขึ้น 

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างชาติยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในประเทศไทย โดยมีปัจจัยสำคัญ 3 ลำดับแรก คือ การมีซัพพลายเออร์ที่เพียงพอ การมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการลงทุน และมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจให้เกิดการลงทุนต่อในประเทศไทย ดังนั้น ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงเชื่อมั่นว่ายอดการจดทะเบียนตั้งใหม่ปีนี้จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ 62,000 รายได้

นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยกองธรรมาภิบาลธุรกิจได้มีการติดตามตรวจสอบการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติในประเทศไทย โดยเฉพาะธุรกิจที่มีผลกระทบต่อเกษตรกร เช่น ธุรกิจคัดแยก บรรจุผลไม้ ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น การค้าที่ดิน นายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยว  ว่ามีคนไทยให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือมีการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว หรือไม่ ซึ่งขณะนี้เริ่มมีผลผลิตผลไม้ภาคใต้ เช่น ทุเรียน มังคุด ออกสู่ตลาด จึงลงพื้นที่ตรวจสอบจังหวัดชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2560 โดยจะบูรณาการตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ซึ่งจะมีการตรวจสอบธุรกิจล้งร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด กรมการค้าภายใน การตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวจะตรวจสอบร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจท่องเที่ยวเป็นต้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่ง เตือน 6 จว.ระวังน้ำท่วม

กทม. 16 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง เตือน จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ […]

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]