นนทบุรี 16 ก.ค. – กระทรวงพาณิชย์ชี้ไอศกรีมไม่ผสมนม-รสแปลกใหม่ขยายตัวสูงในแคนาดา แนะโอกาสไอศกรีมมะพร้าว-ขนมไทยบุกตลาด หลังผู้บริโภคสนใจรสชาติและคุณภาพวัตถุดิบมากขึ้น
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตลาดไอศกรีมในแคนาดามีมูลค่าสูงถึง 284 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,100 ล้านบาท และหากรวมถึงสินค้าขนมหวานแช่แข็ง อาทิ โยเกิร์ตแช่แข็ง และเชอร์เบท จะมีมูลค่าสูงถึง 409 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,225 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีโอกาสและมีอัตราการขยายตัวสูง ได้แก่ ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีมที่มีส่วนผสมแปลกใหม่ เช่น ไอศกรีมที่ผลิตจากนมถั่วอัลมอนด์ ไอศกรีมออร์แกนิก หรือแม้แต่ไอศกรีมผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมการบริโภคไอศกรีมของชาวแคนาดาจะมีอัตราลดลงจาก 7.7 ลิตรต่อคนในปี 2551 เป็น 6.8 ลิตรต่อคนในปี 2559 เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แต่ในทางกลับกันไอศกรีมที่มีอัตราขยายตัวได้แก่ ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนม หรือ Non-Dairy Ice Cream และไอศกรีมรสชาติใหม่ ๆ ผู้ประกอบการไทยจึงควรใช้โอกาสนี้ทำตลาดสินค้านี้ โดยเฉพาะไอศกรีมมะพร้าว ซึ่งทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์เกือบทุกชนิดที่ผลิตจากมะพร้าวได้รับความสนใจอย่างมากในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะพร้าว กะทิ ขนมมะพร้าวอบกรอบ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมมะพร้าว เช่น สบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิว เป็นต้น นอกจากนี้ ไอศกรีมรสชาติผลไม้ไทยและขนมไทยมีโอกาสในตลาดนี้เช่นกัน
นายธนกฤต เหลืองอาสนะทิพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโทรอนโต กล่าวถึงผลการศึกษาพฤติกรรมการบริโภคไอศกรีมในแคนาดาว่า ผู้บริโภคถึงร้อยละ 47 ให้ความสนใจรสชาติและคุณภาพวัตถุดิบที่นำมาผลิตไอศกรีม โดยควรเป็นระดับพรีเมี่ยมและแปลกใหม่ ขณะที่เพียงร้อยละ 19 ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ รูปแบบของไอศกรีมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ รูปแบบ Single Serving หรือขนาดสำหรับบริโภคหนึ่งครั้ง ทำให้ไอศกรีมที่จำหน่ายมีขนาดเล็กลง แต่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงขึ้น ปัจจุบันผู้ผลิตไอศกรีมในอเมริกาเหนือต่างออกสินค้าใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อาทิ ไอศกรีมที่ผลิตจากช็อกโกแลตคุณภาพสูง ไอศกรีมที่ผลิตจากนมถั่วอัลมอนด์ ไอศกรีมผสมวอดก้าและเครื่องดื่มต่าง ๆ ไอศกรีมที่ผสมขนม ไอศกรีมผสมผลไม้จากประเทศอื่น ๆ เป็นต้น
นางมาลี กล่าวว่า ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มมิลเลเนียล อายุระหว่าง 20 – 36 ปี จะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าที่มีความแปลกใหม่ ความน่าตื่นเต้น ซึ่งผู้ผลิตสินค้าจะต้องปรับตัวให้ทัน โดยอีกหนึ่งปัจจัยความสำเร็จอยู่ที่การนำเสนอสินค้าเหล่านี้และรูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้ตรงกับแนวโน้มตลาด ความท้าทายของสินค้าไอศกรีมอยู่ที่การปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม ราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้า หากต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพด้วย ผู้บริโภคยินดีเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาสูงกว่า เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าใหม่กว่า สินค้าที่มีรูปแบบและรสชาติเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย