กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-ภายหลังนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนและกลุ่มต่างๆ ว่าการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตและประพฤติมิชอบ ผ่านช่องทางต่างๆ เกิดความล่าช้ามาก จนบางเรื่องเงียบหายไป จึงเป็นที่มาของการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในวันนี้
ปรีชา สุวรรณชาติ เดินทางจาก จ.นครราชสีมา มายังกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ทันที ที่ทราบข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. สั่งการให้กองทัพเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐในวันนี้ เขาอ้างว่าถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มีเจ้าหน้าที่รัฐหลากสีหนุนหลัง ข่มขู่ คุกคาม จากการเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายในธุรกิจของครอบครัว
ปรีชา เป็นผู้เสียหายรายแรกที่ยินดีเปิดเผยตัวตนและเรื่องร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชน แม้ว่ากองทัพจะมีมาตรการปกปิดข้อมูลทุกอย่างไว้เป็นความลับ เช่น ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ของมณฑลทหารบกที่ 11 ที่มีนโยบายว่า เจ้าหน้าที่ต้องอำนวยความสะดวกและสร้างความสบายใจแก่ประชาชนที่มาร้องเรียน คือ จะไม่ถามรายละเอียด ไม่เปิดอ่านข้อมูล
ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ตลอด 24 ชั่วโมง และกำหนดให้หน่วยขึ้นตรงรวบรวมเรื่องทั้งหมดส่งมายังกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ในวันศุกร์ เพื่อส่งต่อให้สำนักงานเลขานุการกองทัพบกในวันจันทร์ โดยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาฯ คสช. ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เรียกว่าคณะทำงานกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน ทำหน้าที่รวบรวมเรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐและแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ในการทุจริต คอร์รัปชั่น เรียกรับผลประโยชน์ ส่งให้สำนักนายกรัฐมนตรีตรวจสอบเบื้องต้น หากพบว่าน่าเชื่อถือหรือมีมูล ก็จะดำเนินอย่างจริงจัง เด็ดขาด และเร่งด่วน ซึ่งนอกจากเข้าไปร้องเรียนที่หน่วยทหารโดยตรง ประชาชนยังสามารถส่งเรื่องร้องเรียน หรือให้เบาะแส ผ่านฮอตไลน์สายด่วน 1299 หรือ ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ที่ตู้ ปณ.444 ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นความลับ
สำหรับวันแรกของการเปิดศูนย์ร้องเรียนฯ มีการแจ้งข้อมูลและให้เบาะแสรวม 80 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการตั้งด่านผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย