กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-ปภ.ประสาน 59 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากช่วง 14 – 18 ก.ค.นี้
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวตังเกี๋ย ประเทศเวียดนามตอนบน และประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในช่วงวันนี้(14 ก.ค.) – 18 กรกฎาคม 2560
“อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเริ่มมีฝนตกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ฝั่งตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปภ.จึงประสาน 59 จังหวัด แยกเป็นภาคเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ และลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคกลาง 14 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 10 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล” อธิบดีปภ. กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ขอให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก โดยจัดเจ้าหน้าที่มิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ และเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะกรณีฝนตกหนักต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำฝนสะสม 90 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง กรณีที่มีการระบายน้ำออกจากแหล่งกักเก็บน้ำ และช่วงเวลาที่มีน้ำทะเลหนุนสูง ให้จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
“แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย การปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยกรณีอาศัยในพื้นที่น้ำท่วมขังและกรณีต้องอพยพออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป” อธิบดีปภ. กล่าว.-สำนักข่าวไทย