ดีเอสไอ 14 ก.ค.-สมาชิกสหกรณ์คลองจั่นร้องดีเอสไอ หลังกรรมการยอมความทำให้ไม่ได้เงินคืน
นายธรรมนูญ อัตโชติ ประธานชมรมคุ้มครองสิทธิสมาชิกเจ้าหนี้รายย่อยสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น นำผู้เสียหายหลายร้อยคนเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการถอนอายัดทรัพย์ของกลางตามที่ผู้บริหารสหกรณ์ฯนำคำสั่งศาลเพ่งมาบังคับให้ดีเอสไอถอนอายัดทรัพย์ของกลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษเป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวไว้
นายธรรมนูญ กล่าวว่าตนและผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นฯ อยากขอให้ดีเอสไอ ช่วยติดตามทรัพย์คืนเพื่อนำมาเฉลี่ยคืนเจ้าหนี้รายย่อย เนื่องจากที่ผ่านมาการทำคดีดังกล่าวพบว่าทรัพย์สินที่ดีเอสไอและปปง.ตรวจสอบพบมีมูลค่า3,811ล้านบาทแต่ผู้บริหารสหกรณ์ฯ กลับไปทำยอมความรับคืนเงิน เพียง321 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายไม่ได้รับการเฉลี่ยทรัพย์คืน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าผู้บริหารสหกรณ์ฯยื่นฟ้องในทางแพ่งและจะได้รับชำระเพียงมูลค่าความเสียหาย และยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการติดตามทรัพย์และค่าทนายความ 3 เปอร์เซ็นต์ โดยคำนวณจากมูลค่าทรัพย์ 3,811 ล้านบาท จะเป็นค่าทนายจำนวน 114 ล้านบาหากให้ดีเอสไอ และ ปปง.ดำเนินคดีและติดตามทรัพย์ในคดีฟอกเงินจะสามารถเรียกคืนทรัพย์สินที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษรและพวกยักยอกและฟอกเงินได้พร้อมกับดอกผลโดยไม่ต้องจ่ายค่าทนายความ
นายธรรมนูญ กล่าวอีกว่า การยอมความกับนายศุภชัยที่เคยทุจริต และยักยอกจนนำไปสู่การขอถอนคดี โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายในคดีอื่นๆซึ่งยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีอีกจำนวนมาก จนศาลยกคำร้องไม่ให้ถอนคดีแต่ยังมีความพยายามเดินหน้าขอถอนคดีในชั้นฏีกาอีก ปัจจุบันกรรมการสหกรณ์ที่เคยร่วมทีมกับอดีตประธานสหกรณ์ฯที่ร่วมกันฉ้อโกง
ก็ยังคงทำงานตามปกติ จึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริหารงานของสหกรณ์ในช่วงที่มีการฟื้นฟูกิจการ ในคดีเพ่งศาลสั่งให้นายศุภชัยชดใช้ค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ 3,811 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ขณะที่ความเสียของสหกรณ์มามากกว่า 10,000 ล้านบาท โดยนายศุภชัยนำไปซื้อที่ดินแล้วโอนให้คนอื่นถือครองแทน ซึ่งเป็นการฟอกเงิน หากมีนายทุนนำเงินมาชำระคืน 3,811 ล้านบาทเพื่อถอนอายัดของกลาง ก็จะได้ที่ดินคืนกลับไปเพราะปัจจุบันที่ดินดังกล่าวมูลค่าสูงกว่าราคาซื้อขายในปีที่เกิดปัญหาการยักยอก ดังนั้น หากยอมให้มีการถอนอายัดจึงเกรงว่าลูกหนี้รายย่อยจะไม่ได้รับคืนความเสียหายเลย
ด้านพ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำคำร้องของกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ไปเสนอให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณา เนื่องจากในคดีนี้มีคำสั่งศาลเรื่องการถอนอายัดของกลางหากผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรก็พร้อมจะแจ้งให้ผู้ร้องรับทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย