จ.นครปฐม 12 ก.ค.-รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หารือร่วมสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ-พระเถระชั้นผู้ใหญ่ เดินหน้าหลายประเด็นร้อน โดยเฉพาะการเร่งรัดจัดทำสมาร์ทการ์ดพระ การจัดทำบัญชีวัดและตรวจสอบเงินทอน
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าหารือกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)และพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคม ประกอบด้วย พระพรหมมุนี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร พระพรหมโมลี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และพระพรหมบัณฑิต วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ว่า เรื่องสำคัญที่จะมีการหารือกันวันนี้ มีหลายประเด็น ประกอบด้วยเรื่อง การจัดทำบัตรสมาร์ทการ์ดพระ ซึ่งเรื่องนี้ทางมหาเถรสมาคมได้มีการพูดคุยกันหลายครั้งแต่เรื่องก็ได้เงียบหายไป และทางกรรมการมหาเถรมาคมเห็นว่าเป็นการดีถ้าจะนำเรื่องนี้กลับมาทำให้เป็นรูปธรรมอีกครั้งโดยล่าสุดกรมการปกครองได้ประสานมาว่าได้มีการทำบัตรประจำตัวพระที่มีรูปถ่ายเรียบร้อยแล้ว เหมือนบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งต้องดูว่ามีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ เพราะในสมาร์ทการ์ดพระควรจะต้องมีข้อมูล มีรายละเอียดของพระทั้งหมด ประวัติเป็นอย่างไร มีสมณศักดิ์อะไร บวชมากี่พรรษา หรือเคยทำผิดมาบ้างหรือไม่ เพื่อป้องกันพระปลอมและบุคคลที่กระทำผิดและหนีมาบวชได้รวดเร็วขึ้น และจะใช้แทนใบสุทธิพระเดิมทันที
นายออมสิน กล่าวต่อว่า อีกประเด็นสำคัญที่จะหารือคือเรื่องที่คณะสงฆ์มีความห่วงใยเกี่ยวกับข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับพระและวัดที่เกี่ยวข้องในคดีต่าง ๆ ซึ่งหลายกรณีพระไม่มีความผิด รวมถึงกรณี ปปง.สรุป เงินทอนวัดซึ่งกว่า 10วัดพระไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดแต่ข่าวที่ออกไปทำให้คนเข้าใจผิดว่าพระทำผิดไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาที่ประชุมมหาเถรสมาคมได้มีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลการให้ข่าวเกี่ยวกับวัดต่างๆโดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตร เป็นประธาน ซึ่งวันนี้จะหารือถึงแนวทางในการให้ข่าวเกี่ยวกับวัดในทุกกรณี โดยเฉพาะเรื่องเงินทอนวัด เพื่อกลั่นกรองข้อมูลข่าวสาร ไม่ให้กระทบต่อพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชน
ส่วนเรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดจำนวน 47,000แห่งทั่วประเทศ ปัจจุบันร้อยละ96 -97 ได้ ส่งบัญชีรายรับรายจ่ายมาที่ พศ.แล้ว แต่ยังมีบางวัดที่ยังไม่ส่งข้อมูลมา ก็จะติดตามให้มารายงานให้ครบทั้งหมด
สำหรับการหารือวันนี้ จะออกระเบียบเรื่องบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งจะระบุทรัพย์สินบางประเภทให้ส่งข้อมูลกลับมา ตามแบบฟอร์มที่ถูกต้องเพื่อให้แต่ละวัดปฏิบัติตาม โดยผลประชุมในวันนี้จะรายงานเข้าที่ประชุมมาหาเถรสมาคมครั้งต่อไปเพื่อให้ออกมติปฏิบัติทั่วประเทศ
ส่วน กรณีที่ปปป.จะให้พศ.ผู้ดำเนินการเกี่ยวกับคดีเงินทอนวัดครั้งต่อไป เรื่องนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พศ.ยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ปปป. แต่พ.ศ. ก็ยังคงดำเนินการตรวจสอบต่อไปและจะส่งข้อมูลให้ปปป.ตามอำนาจหน้าที่.-สำนักข่าวไทย