“ศิริชัย”ประธานศาลอุทธรณ์ น้ำเสียงสั่นเครือหลังมีข่าวจะถูกย้ายพ้นเก้าอี้

กทม.12 ก.ค.- “ศิริชัย วัฒนโยธิน”ประธานศาลอุทธรณ์ เปิดแถลงหลังมีกระแสข่าว จะถูกย้ายพ้นเก้าอี้และจะถูกตั้งกรรมการสอบการบริหารงานในศาลอุทธรณ์ รับรู้สึกเจ็บปวดกับข่าวนี้ ย้ำรักสถาบันตุลาการมากทำงานมากว่า 40 ปี


 นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงกรณีมีกระแสข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ ก.ต.มีมติให้ย้ายตนไปเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา รวมทั้งกระแสข่าวว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการกล่าวหาตนมีปัญหาการบริหารศาลอุทธรณ์ ว่า ยังไม่เห็นหนังสือคำสั่งหรือมติ ก.ต.อย่างเป็นทางการ ทราบจากการนำเสนอของสื่อ ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง จึงออกมาแถลงข่าวเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริง โดยขอชี้แจงเรื่อง ที่จะถูกตั้งกรรมการตรวจสอบเรื่องการบริหารงานว่าสมัยเป็นผู้พิพากษาอยู่ต่างจังหวัด จนได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลอุทธรณ์เมื่อปี 2558 ตนขยันและซื่อสัตย์ ทำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด และได้รับการคาดหวังว่าหากปฏิบัติหน้าที่อย่างดี จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกาตามขั้นตอน ศาลอุทธรณ์ขณะนี้ ไม่มีคดีใดตกค้าง ทุกคดีเป็นปัจจุบัน ที่ผ่านมาพยายามปรับการทำงานของศาลอุทธรณ์ เช่น ลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปาของศาลอุทธรณ์ได้ปีละ 1,000,000 บาท และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ลดการใช้กระดาษในการเขียนคำพิพากษา ซึ่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ก็ร่วมมืออย่างดี  ส่วนมติการแต่งตั้งตนเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาของ ก.ต. ตนยังไม่แน่ใจว่าจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงหากตนไปเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาจริง เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องลำดับอาวุโสในการทำหน้าที่ อีกทั้งตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาเป็นตำแหน่งใหม่ที่ยังไม่มีความชัดเจน และแม้ตนจะไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ก็ยังพร้อมทำหน้าที่ประธานศาลอุทธรณ์ต่อไป เพราะตำแหน่งรองจากประธานศาลฎีกา คือประธานศาลอุทธรณ์ ซึ่งตามระเบียบประธานศาลอุทธรณ์มีวาระ 2 ปี หากขึ้นตำแหน่งใหม่ไม่ได้ ก็สามารถอยู่ตำแหน่งเดิมได้เกินวาระ อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูเอกสารคำสั่งของ ก.ต.อีกครั้ง เนื่องจากยังไม่เห็นหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการ 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างการแถลงข่าวนายศิริชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า กรณีดังกล่าวทำให้ตนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าว และมีบางเรื่องที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมย้ำตนรักสถาบันตุลาการมาก เพราะทำงานมานานกว่า 40 ปี.-สำนักข่าวไทย



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง