โฆษกศาลยุติธรรมแจงศิริชัยชวด ปธ.ศาลฎีกาไร้การเมืองแทรกแซง

กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- โฆษกศาลยุติธรรม แจงมติ กต.โปร่งใส ศิริชัยชวด ปธ.ศาลฎีกาไร้การเมืองแทรกแซง


นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง กรณี นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประกาศลาออกจากประธานศาลอุทธรณ์ หลังไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีกา และถูกสอบสวนทางวินัย ว่า ที่นายศิริชัย อ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ในการกลั่นกรองเสนอชื่อขึ้นเป็นประธานศาลฎีกา ในเรื่องนี้ เป็นดุลยพินิจทั้งของ อนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ อ.ก.ต.  21 ท่าน และ คณะกรรมการข้าราชการตุลาการ หรือ ก.ต. 15 ท่าน ที่มีเสียงข้างมาก เห็นว่าคุณสมบัติของ นายศิริชัย ไม่เหมาะสม พร้อมยืนยัน การใช้ดุลยพินิจของ อ.ก.ต.และ ก.ต.แต่ละบุคคล  ไม่มีเรื่องของการเมืองมาแทรกแซง เพราะตุลาการแต่ละท่านมีเกียรติมีศักดิ์ศรี และไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ทุกอย่างที่พิจารณา เป็นไปตามพยานหลักฐาน 

ซึ่งที่ผ่านมาทาง อ.ก.ต. มีการพิจารณา และเปิดโอกาสให้นายศิริชัย มีการชี้แจงถึงสองครั้ง พร้อมพยานหลักฐาน เกี่ยวกับประเด็นการโอนสำนวนคดีและการเพิกถอนสำนวนคดี 


ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยเกี่ยวกับการเพิกถอนคดี และการโอนสำนวนคดี  ที่มีการยกมาพิจารณา มีระเบียบขั้นตอนในการปฏิบัติ  ซึ่งต่อจากนี้หากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นว่ามีความผิดจริง ก็สามารถลงโทษตามหลักปฏิบัติได้ ซึ่งสามารถมีผลย้อนหลังได้แม้ว่านายศิริชัยลาออกไปแล้วก็ตาม คาดจะใช้เวลาในการพิจารณา 30 วัน หรือสามารถขยายระยะเวลาได้อีกสองครั้ง ครั้งละ 15 วัน และหากว่ามีการลงความเห็นว่า นายศิริชัยผิด ในส่วนของคดีที่เกี่ยวข้องก็จะมีการนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง เพื่อความถูกต้อง และเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาแล้วจะนำผลมาแสดงต่อสาธารณชนต่อไป 

สำหรับกรณีตำแหน่ง ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา ที่ได้กำหนดตำแหน่งขึ้นมา นั้นตามระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ  ก.ต.มีอำนาจออกประกาศกำหนดตำแหน่งขึ้นมาใหม่ได้ และเมื่อได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา แล้ว แม้นายศิริชัย  จะไม่รับตำแหน่ง ดังกล่าว และยังไม่มีการเสนอใคร แต่ก็ยังต้องมีตำแหน่งดังกล่าวไว้ 

ส่วนกรณีที่นายศิริชัย ออกแถลงข่าวพาดพิง กระบวนการศาลยุติธรรมซึ่งอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง สำนักงานศาลยุติธรรมจะไม่มีการฟ้องนายศิริชัย เนื่องจากเป็นบุคลากรตุลาการที่มีผลงานสร้างคุณงามความดี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย