กรมสุขภาพจิต ชูนวดไทยอโรมารักษาโรคซึมเศร้า

สธ.10ก.ค.-กรมสุขภาพจิต ชูแนวคิดวิจัยภูมิปัญญาชาติ ‘นวดไทย-อโรมา’ รักษาโรคซึมเศร้าเพื่อจัดบริการในชุมชน เผยขณะนี้คนไทยป่วยโรคนี้สูงถึง 1.5 ล้านคน ครึ่งหนึ่งไม่เข้ารักษาเหตุเข้าใจผิดคิดว่าจะหายเอง 


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์  อธิบดีกรมสุขภาพจิต  กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ให้สัมภาษณ์ถึงโรคซึมเศร้า(Depressive disorder) ว่า โรคนี้เป็นโรคมีความผิดปกติทางอารมณ์ เป็นปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญของประเทศไทย เนื่องจากมีคนป่วยโรคนี้จำนวนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจและไม่ได้รับการรักษา คาดประมาณการว่ามีคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปป่วยเป็นโรคนี้ประมาณ 1.5 ล้านคนทั่วประเทศ โดยประมาณ 1.3 ล้านคน เป็นชนิดรุนแรงคือ มีอารมณ์เศร้า ท้อแท้ หดหู่ สิ้นหวังอย่างรุนแรงเกิดขึ้นเกือบตลอดทั้งวัน ติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับเบื่อหน่าย หมดความสนใจในการงานหรือกิจกรรมที่เคยชอบทำเป็นต้น 


ส่วนที่เหลือเป็นชนิดเรื้อรัง เป็นๆหายๆแม้ทำงานได้แต่จะอยู่แบบไม่มีชีวิต ชีวา ซึ่งปัจจุบัน รพ.ทุกระดับในเขตสุขภาพสามารถให้การรักษาโรคนี้ตามมาตรฐานและมียารักษาหายขาด แต่ปัญหาใหญ่คือผู้ป่วยยังเข้ารักษาไม่มากเท่าที่ควร ในรอบ 9 เดือนปีงบประมาณ 2560 นี้ มีผู้ป่วยเข้ารักษาทั่วประเทศ 750,775 คน คิดเป็นร้อยละ 53 ของผู้ป่วยที่คาดประมาณทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงานและสูงอายุ ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ารักษาเพียงร้อยละ 11 เท่านั้น


สำหรับสาเหตุหลักของผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าแล้วไม่เข้ารักษา ส่วนหนึ่งเกิดจากเข้าใจผิดคิดว่าอาการป่วยซึมเศร้าหดหู่ใจเป็นเรื่องธรรมดา เป็นแล้วก็หายเอง และยังมีอคติว่าโรคซึมเศร้าเป็นคนบ้า  วิกลจริต  จึงไม่เข้ารักษา ทำให้มีผลเสีย อาการลุกลามจนมีอาการหลงผิดหรือประสาทหลอน หูแว่ว ได้ยินเสียงคนมาพูดคุยด้วย มีผลต่อการทำงานและการใช้ชีวิต สุดท้ายอาจจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย  ในการแก้ไขป้องกันปัญหาในปี 2560 นี้ เน้นหนักที่การสร้างความรู้ความเข้าใจประชาชนผ่าน อสม.ซึ่งรู้จักชุมชนดีที่สุด การค้นหาผู้ป่วยในชุมชนซึ่งคาดว่าจะมีอยู่เกือบ 7แสนคนโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเกิดโรคนี้ง่ายกว่าคนอื่นๆ เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทางกาย ผู้สูงอายุ ผู้ติดสุราหรือสารเสพติด ผู้ที่สูญเสียของรัก ซึ่งจะใช้แบบ  คัดกรองด้วยภาษาถิ่นทั้งอีสาน เหนือ ใต้และภาษายาวีง่ายๆ 2 คำถาม ชาวบ้านเข้าใจง่ายขึ้น หากพบก็จะประเมินอาการระดับความรุนแรงต่อ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้รวดเร็วเพียง 3-5 นาที และให้การรักษาได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่อง โดยในรอบ 9 เดือนมานี้สามารถค้นพบผู้ป่วยรายใหม่และนำเข้าสู่ระบบการรักษา  56,441 คน ต้นทุนให้บริการถูกลงจากเดิม 14,381 บาทต่อคนเหลือเพียง 930 บาทต่อคนเท่านั้น  มาตรการดำเนินการของประเทศไทย ได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลกว่าทำได้ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

“ประการสำคัญมอบให้ รพ.พระศรีมหาโพธิ์จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นรพ.ต้นแบบของการพัฒนามาตรฐานการบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าระดับ ประเทศของกรมฯทำการศึกษาวิจัยนวดไทยมาบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเนื่องจากการนวดจะมีผลกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ร่างกายตื่นตัว เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่จากภูมิปัญญาชาติใกล้ตัวและมีบรรยากาศการดูแลแบบมิตรภาพมีคุณค่าสูงทางจิตใจของผู้ป่วย หากวิจัยสำเร็จจะสามารถบูรณาการเข้าสู่ระบบบริการผู้ป่วยโรคนี้ในชุมชนได้ ซึ่งขณะนี้สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีบริการการแพทย์แผนไทยครอบคลุมถึง รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลอยู่แล้ว  ที่สำคัญที่สุดจะเพิ่มมูลค่าของการนวดไทยในด้านการบำบัดรักษาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น  สามารถใช้สร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ และลดการพึ่งยาในอนาคตได้ด้วย”  อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว  

ด้าน นพ.ประภาส อุครานันท์ ผู้อำนวยการ  รพ.พระศรีมหาโพธิ์ กล่าวว่า การวิจัยการนวดบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกในการบำบัดรักษา โดยทีมวิจัยของ รพ.ได้ร่วมกับคณะอาจารย์ด้านการแพทย์แผนไทย พัฒนาโปรแกรมนวดชื่อว่าพระศรีนวดแผนไทย (Prasri MassageTherapy : PMT)เป็นการนวดเฉพาะจุดร่วมกับการใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์แบบอโรมาซึ่งมีผลต่อการปรับความสมดุลย์ของสารเคมีในสมอง 

การนวดมีทั้งหมด 7 ขั้นตอน นวดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ได้แก่ ศีรษะ คอ บ่า หลัง แขน มือขา และเท้า โดยศึกษาในกลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีความรุนแรงระดับเล็กน้อยที่ใช้บริการที่รพ.พระศรีฯ จำนวน 352คน ใช้เวลานวด 1 ชั่วโมง ดำเนินการระหว่างต.ค.2559-ก.ย.2560 จากนั้นจะศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับกลุ่มที่รักษาด้วยยาหรือวิธีอื่นๆตามมาตรฐานสากล  

ทั้งนี้ มีผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าการนวดมีประสิทธิภาพในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีอาการตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้  ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและช่วยกระตุ้นต่อมใต้สมอง เพิ่มการหลั่งสารซีโรโทนิน ส่งผลให้ลดอาการซึมเศร้าได้  โดยพบว่าได้ผลดีในการบำบัดหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคซึมเศร้าที่มีอาการในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางไม่แตกต่างจากการใช้ยาต้านเศร้า  ส่วนน้ำมันหอมระเหยจากพืชพบว่ามีสรรพคุณทางการแพทย์ช่วยลดอาการซึมเศร้าที่นิยมใช้ทั่วไปคือ ลาเวนเดอร์ซึ่งสกัดมาจากดอกลาเวนเดอร์ หลังจากที่ใช้ร่วมกับการนวดไปแล้ว 19 นาที กลิ่นหอมระเหยของน้ำมันลาเวนเดอร์จะช่วยเพิ่มสารสื่อประสาทคือสารโดปามีน ส่งผลให้ลดความวิตกกังวล ลดอาการซึมเศร้าได้ 

“โรคซึมเศร้านี้ คนทุกวัยป่วยได้ แต่รักษาหายได้  เมื่อมีซึมเศร้าก็สามารถคุยพูดกันได้  หากรู้สึกว่าตนเองหรือคนในครอบครัวหรือคนรู้จัก มีอาการหรือพฤติกรรมผิดแปลกไปจากปกติคือ หดหู่ เศร้า ท้อแท้สิ้นหวังหรือเบื่อ ทำอะไรก็ไม่สนุกเพลิดเพลินเหมือนเดิม ขอให้ปรึกษาอสม. หากมีอาการซึมเศร้าร่วมกับความคิดไม่อยากมีชีวิตอยู่ หรืออยากทำร้ายตนเอง หรือบอกว่า ชีวิตนี้ไม่มีค่าที่จะอยู่ต่อไปอีกแล้ว ขอให้รีบไปรับบริการที่รพ.ใกล้บ้าน ยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าใดยิ่งจะมีโอกาสหายสูง  โดยใช้เวลารักษาเพียง 6-9 เดือนเท่านั้น หรือหากใครมีปัญหาทุกข์ใจ ไม่ทราบจะหาทางออกอย่างไร โทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”นพ.ประภาสกล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่