จเรตำรวจลงสุราษฎร์ฯ เดินหน้าสอบซื้อขายตำแหน่ง

สุราษฎร์ธานี 6 ก.ค.- “พล.ต.อ.ปัญญา” นำทีมสอบลงสุราษฎร์ฯ หาข้อมูลเพิ่มเติมการซื้อขายตำแหน่ง เรียก รรท.31 นายเข้าให้ถ้อยคำ ยืนยันทุกอย่างต้องโปร่งใสยุติธรรม สร้างความศรัทธาในองค์กรตำรวจ หนึ่งโจทย์สำคัญการปฎิรูป


พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ  พร้อมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายตำแหน่งภายในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เดินทางมายังศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 8  จ.สุราษฎร์ธานี  วันนี้ (6 ก.ค.) โดยเชิญข้าราชการตำรวจสังกัด ตำรวจภูธรภาค 8 ระดับรอง ผกก. และ ผกก. จำนวน 31 นาย  มาให้ถ้อยคำ เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงครั้งที่ 2 จากก่อนหน้านี้คณะกรรมการฯ ได้เรียกข้าราชการตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 ให้ถ้อยคำมาแล้วครั้งหนึ่ง


 พล.ต.อ.ปัญญา ในฐานะประธานกรรมการฯ กล่าวว่า ผบ.ตร.ได้อนุมัติขยายเวลาสืบสวนข้อเท็จจริงออกไปอีก 30 วัน และการเรียกข้าราชการตำรวจมาให้ถ้อยคำในครั้งนี้ ทั้งหมดจะเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งรอง ผกก. และ ผกก. ซึ่งอดีต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ออกคำสั่งให้ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งรอง ผบก.  ผกก. และในการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2559 มีบางคนได้รับการแต่งตั้ง บางคนไม่ได้รับการแต่งตั้ง โดยจะได้สอบถามตามประเด็นการร้องเรียนของนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อมวลชนว่ามีข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงไหน เพื่อนำข้อมูลบันทึกถ้อยคำไปประมวลร่วมกับการบันทึกถ้อยคำครั้งที่ 1 และข้อมูลของชุดสืบสวน สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจากบุคคลภายนอกมาระยะหนึ่งแล้ว

พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวด้วยว่า การเรียกข้าราชการตำรวจมาให้ถ้อยคำจะแจ้งให้ทุกนายทราบถึงสิทธิ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 7/60 เรื่องการปรับปรุงพิจารณาแต่งตั้งตำรวจ ข้อ 3 ซึ่งระบุว่าการพิจาณาแต่งตั้งโยกย้ายต้องเป็นไปด้วยความสุจริตและเป็นธรรม หากมีเรื่องร้องเรียน หรือข้อสงสัย ว่ามีการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือมีการเรียกรับ ให้สัญญาว่าจะให้ประโยชน์ตอบแทนแลกเปลี่ยนหรือจูงใจในการแต่งตั้งไม่ว่าด้วยประการใด ๆ สามารถยื่นเรื่องให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กระทรวงยุติธรรม ได้โดยตรง ซึ่งมีกระบวนการคุ้มครองพยานหรือผู้แจ้งเบาะแสอยู่แล้ว ยืนยันว่าการทำงานของจเรตำรวจในครั้งนี้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กรตำรวจ และจะเป็นหนึ่งโจทย์สำคัญของการปฎิรูปตำรวจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน