ตลิ่งชัน 6ก.ค.-ฝ่ายกฎหมายวัดชัยพฤกษ์ แจงชาวบ้านร้องเรียนตรวจสอบเจ้าอาวาสทุกปีเชื่อว่าเป็นกลุ่มเสียผลประโยชน์จากการเช่าที่ เผยเจ้าคณะปกครองมีการตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว ไม่พบผิดปกติ ขณะที่วัดได้รับงบอุดหนุนจากกรมศิลป์ 12.5 ล้านจริง แต่งบเจ้าหน้าที่รัฐจัดการเองทั้งหมด
ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กทม. หลังเครือข่ายประชาชนปฏิรูปและประธานชุมชนวัดชัยพฤกษ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าอาวาสวัดชัยพฤกษ์ ถึงความโปร่งใสการใช้งบอุดหนุนจากรัฐ การใช้ประโยชน์จากเงินค่าเช่าธรณีสงฆ์ หรือค่าเช่าที่วัด อย่างไม่เป็นธรรม ต่อสำนักงานป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) โดยได้พบกับฝ่ายกฏหมายวัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร แจ้งว่า พระราชสุตาภรณ์ เจ้าอาวาสติดกิจนิมนต์
ส่วนกรณีการร้องเรียนของกลุ่มดังกล่าว เกิดขึ้นทุกปีสืบเนื่องจากชาวบ้านเช่าพื้นที่วัดอาศัยมานานตั้งแต่ปี 2524 สัญญาเช่า 20 ปี แต่สัญญาเพิ่งหมดไม่นานมานี้ และพบว่าชาวบ้านบางรายนำตึกที่เช่าในพื้นที่วัดไปเซ้งให้กับบุคคลนอกในราคาที่สูงเกินจริง กับที่เช่าวัด เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ทราบข่าวจึงมีการจัดระเบียบ โดยมีคณะกรรมการวัดประชุมขอความเห็นตรงกัน ให้มีการขอคืนพื้นที่เช่า หากไม่เป็นตามวัตถุประสงค์ เนื่องจากนำที่วัดปล่อยเช่าต่อให้นายทุน เช่น เช่าวัด1,200 บาทต่อเดือน แต่ปล่อยเช่า หลักหมื่น บางรายถึงแสน เรื่องนี้เจ้าคณะปกครอง หรือเจ้าคณะ กทม.เคยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว และส่งเรื่องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งก็พบว่าชาวบ้านร้องเรื่องเดิมซ้ำๆทุกปี
ส่วนกรณีงบบูรณปฏิสังขรณ์ ตนทราบเพียงว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับงบจากสำนักพุทธฯ แต่วัดชัยพฤกษ์เป็นวัดหลวง จึงได้รับงบบูรณะจากกรมศิลปากรและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นจำนวนเงิน 12.5 ล้านบาทถ้วน มีป้ายติดไว้หน้าโบถส์ชัดเจน งบส่วนนี้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนดูแลทั้งหมด
ส่วนงบใช้จ่ายของวัดจากเงินบริจาคญาติโยม งบโรงเรีบนพระปริยัติธรรม เจ้าอาวาสตั้งไวยาวัจรกร คณะกรรมการวัด ดูแล มีการรายงานบัญชีต่อเจ้าคณะแขวง เขต และส่งรายงานพศ.ทุกปี มองว่าการออกมาร้องเรียนเป็นเพียงบางกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ .-สำนักข่าวไทย