กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – สหภาพฯ ขสมก.เตรียมร้องนายกฯ ใช้ ม.44 จัดหารถเมล์เอ็นจีวี-รถเมล์ไฟฟ้า พร้อมทบทวนปฏิรูปเส้นทางรถโดยสารประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 กรกฎาคมนี้เตรียมยื่นหนังสือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อทบทวนปฏิรูปเส้นทางเดินรถโดยสาร รวมทั้งต้องการเสนอให้นายกฯ ใช้ ม.44 เร่งรัดจัดหารถใหม่ อาทิ รถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน รถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน หลังจากนั้นจะทยอยยื่นหนังสือให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้อำนวยการ ขสมก. และนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกต่อไป เพื่อสอบความถึงความคืบหน้าในการจัดหารถเมล์ใหม่มาวิ่งให้ประชาชนและแนวทางแก้ปัญหาเรื่องปฏิรูปเส้นทางรถเมล์
ส่วนการติดตั้งกล่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) และเครื่องสแกนตั๋วอัตโนมัติ (อี-ทิคเก็ต) รถเมล์นั้น ต้องการให้มีใช้ แต่ไม่ให้กระทบพนักงาน ขสมก. เพราะถ้ามีระบบอี-ทิคเก็ตพนักงานต้องเข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนด (เออรี่รีไทน์) โดยเฉพาะพนักงานฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายห้องออกตั๋วรถเมล์ ฝ่ายการเงินที่มีประมาณ 800-900 คน รวมทั้งพนักงานเก็บค่าโดยสารที่มีประมาณ 4,200-4,300 คน ซึ่งพนักงานเกือบกว่า 5,000 คนจะให้ไปทำหน้าที่อะไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องค่อยดำเนินการแก้ไขปัญหา ควรมองว่าระบบอี-ทิคเก็ตเหมาะสมกับเมืองไทยหรือยัง ควรทดลองใช้เส้นทางที่มีประชาชนจำนวนมากหรือรถเมล์ที่ให้บริการแถวชานเมืองก่อน เช่น สาย 140 เส้นทางแสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งการติดตั้งระบบอี-ทิคเก็ตที่นำร่องกับรถเมล์ฟรี 800 คัน เพื่อเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งการติดตั้งอี-ทิคเก็ตในรถเมล์ฟรีไม่เหมาะสม เพราะรถเมล์ฟรีมีสภาพเก่า ใช้งานหลายปี หากติดตั้งไปแล้วใช้งานไม่กี่ปีต้องถอดออก ทำให้มีค่าใช้จ่าย เสียเวลาและทำงานซ้ำซ้อนในการดำเนินการ ควรรอติดตั้งอี-ทิคเก็ตกับรถเมล์ใหม่เหมาะสมกว่า ทั้งนี้ หากปฏิรูปเส้นทางแล้วอัตราค่าโดยสารไม่ต้องปรับ เพราะประชาชนเดือดร้อน รัฐบาลต้องเป็นผู้อุดหนุนไม่ใช่ผลักภาระให้ประชาชน.-สำนักข่าวไทย