กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – กระทรวงพลังงานยืนยันไม่นำโควตาโซลาร์ฟาร์มราชการมาเปิดรับซื้อรอบ 3 ส่วนการปรับแผนพีดีพีใหม่จะเสร็จสิ้นปลายปีนี้ แหล่งข่าวเผยกัลฟ์ส่งหนังสือเสนอแผนปรับปรุงโครงการไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการที่ยังเหลือโควตาจากการจับสลากรับซื้ออีกประมาณ 47 เมกะวัตต์นั้น ทางกระทรวงพลังงานคงไม่เปิดรับซื้อรอบ 3 อีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาเปิดมาแล้ว 2 รอบ ส่วนจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนประเภทใดในอนาคต หลังจากสัดส่วนในปัจจุบัน เช่น โครงการเอสพีพีไฮบริดและวีเอสพีพีไฮบริดเฟิร์ม 569 เมกะวัตต์นั้น ก็คงจะรอความชัดเจนจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เรื่องแผนพลังงานทดแทนจะเป็น 1 ใน 5 แผนหลัก ประกอบด้วย แผนพัฒนาพลังงานทดแทน (RE) ,แผนอนุรักษ์พลังงาน (EE) ,แผนน้ำมัน(OIL PLAN), แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (GAS PLAN) และแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าระยะยาว (PDP) โดยจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแผนที่จะพิจารณาจะดูถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเทคโนโลยี การสำรองพลังงาน ( Energy Storage) ที่เอื้อต่อการผลิตพลังงานทดแทน
ส่วนกรณีกลุ่มกัลฟ์ ผู้ชนะประมูลไอพีพี รอบ 3 จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรงไฟฟ้านั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ร้องเรียนถึงขบวนการคัดเลือกที่เกิดในสมัยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ว่าดำเนินการไม่โปร่งใส ซึ่งกระบวนการเป็นเรื่องที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะตรวจสอบ แต่ในแง่ของกระทรวงพลังงานคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่กลุ่มกัลฟ์ ทำไว้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไว้แล้ว ยกเว้นแต่ทางกัลฟ์ จะทำเรื่องมาขอเปลี่ยนแปลงจากสัญญาที่มีไว้
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มกัลฟ์ ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงพลังงาน โดยมีข้อเสนอเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ 2 โรงไฟฟ้าจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่ปี 2564-2569 ซึ่งเดิมก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงานเคยเสนอให้ชะลอการผลิตไฟฟ้าโรงที่ 2 ออกไปก่อน โดยข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการถึงความผิดปกติของการประมูลไอพีพีนั้น ถูกตั้งข้อสังเกตถึงการที่ กฟผ.ต้องลงทุนสร้างสายส่ง 5,900 ล้านบาท ไปรองรับโครงการนี้ ทั้งที่การประมูลควรจะมีการพิจารณาถึงต้นทุนส่วนนี้ที่ควรบวกไปกับค่าไฟฟ้าที่กัลฟ์ประมูลได้
นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าฯ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.กำลังดำเนินโครงการสร้างสายส่งไปรับไฟฟ้าจากกัลฟ์ตามสัญญา ส่วนเรื่องแผนพีดีพีนั้น จะทำให้การลงทุนของ กฟผ.ในช่วง 10 ปี (2558-2567) กฟผ.จะต้องลงทุนลดลงจากเดิม 1.2 ล้านล้านบาท หรือไม่นั้น กฟผ.กำลังติดตาม ซึ่งแม้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนและการสำรองไฟฟ้าจะเป็นแนวโน้มทิศทางใหม่ แต่ยังจำเป็นต้องลงทุนในวงเงินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงหลักจำเป็นต้องมีอยู่ในแผน เช่น ถ่านหิน เพราะต้นทุนต่ำ จัดการด้านสิ่งแวดล้อมได้ และกระจายเชื้อเพลิง
นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงต่ำกว่าแผนในปีนี้ คาดว่าจะมาจากฤดูฝนที่มาเร็ว ทำให้อากาศไม่ร้อน การใช้ไฟฟ้าที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังประเมินว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตจะเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบ.-สำนักข่าวไทย