สั่งปิดโรงงานซีพีเอฟเฉพาะบ่อบำบัดน้ำเสีย 30 วัน

กรุงเทพฯ 26 มิ.ย.-กรมโรงงานสั่งปิดโรงงานซีพีเอฟเฉพาะบ่อบำบัดน้ำเสีย 30 วัน เพื่อแก้ไขปัญหา หลังเกิดเหตุคนตกลงไปเสียชีวิต 


นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา นักศึกษาคณะสัตว์แพทย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าเยี่ยมชมโรงงานฆ่าสัตว์ และชำแหละสัตว์ปีก บริษัทซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ถนนบางนา-ตราด 20 เขตบางนา กรุงเทพมหานคร แต่พลัดตกบ่อระบบบำบัดน้ำเสีย และมีผู้เข้าไปช่วยเหลือแต่สุดท้าย การเข้าไปช่วยเหลือโดยไม่มีความรู้ และเกิดอาการตกใจ จึงกระโดดลงไปช่วยแล้ว ขาดอากาศหายใจ ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ราย ได้แก่ นางสาวปัณฐิกา ดาสุวรรณ นิสิตคณะสัตว์แพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมโรงงาน 1 ราย นางสาวลักษณ์ชนก แสนทวีสุข อายุ 24 ปี นายชาตรี สีสันดร อายุ 53 ปี คนงานรายวัน นายพรศักดิ์ บุญพาล อายุ 40 ปี หัวหน้างานอนามัย นายชาญชัย พันธุ์นาคิน อายุ 42 ปี หัวหน้าหน่วยงานซ่อมบำรุง โดยมีผู้ประสบเหตุรอดชีวิต คือ นายประเสริฐ ศรศิริ อายุ 37ปี หัวหน้างานซ่อมบำรุง

โดยบริเวณที่เกิดเหตุเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียที่แยกไขมันออกแล้ว ก่อนส่งเข้าสู่ระบบบำบัดแบบตะกอนเร่ง มีขนาด 3 คูณ 4 เมตร ลึก 2.5 เมตร เป็นบ่ออับอากาศ โรงงานนี้มีปริมาณน้ำเสียจากกระบวนการผลิต 5,500 ลูกบาศก์เมตร/วัน หลังจากเกิดเหตุกรมโรงงานเข้าไปตรวจสอบ ก่อนสั่งการด้วยวาจาและหนังสือ โดยเป็นออกคำสั่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติโรงงานพศ 2535 สั่งปิดโรงงานเฉพาะส่วนระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับปรุงแก้ไขบริเวณที่ทำงานให้ปลอดภัยและมีความถูกต้องทางวิศวกรรมเป็นเวลา 30 วัน ในส่วนของการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุขึ้นในอนาคตอีกนั้นก็จะให้มีการดำเนินการมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ในโรงงานประเภทและลักษณะเดียวกันนี้ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมจะได้หารือกับสมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยเพื่อกำหนดมาตรฐานที่เป็นปัจจุบันและทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันต่อไป


 

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นมีเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมของโรงงานพาเยี่ยมชมโรงงาน โดยเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น การจะเข้าพื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสีย โดยไม่มีประสบการณ์เผชิญเหตุ และพื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสีย โดยปกติแล้วเป็นพื้นที่ที่ทางโรงงานไม่ต้องการให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ในเบื้องต้นเท่าที่ทราบการเข้าไปชมโรงงานในส่วนดังกล่าวเป็นการขออนุญาตโดยส่วนตัวกับบุคคลภายใน ซึ่งยังไม่ได้ทราบว่าโรงงานมีข้อมูลอย่างไรในจุดนั้น

และในจุดเกิดเหตุบ่อบำบัดน้ำเสียนี้ เป็นจุดที่เดินผ่านได้ ฝาบ่อเป็นจุดที่เดินผ่านได้ ไม่ทราบว่า ปิด หรือเปิดอยู่ เพราะในช่วงที่เจ้าหน้าที่กรมโรงงานเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าฝาบ่อบำบัดน้ำเสียดังกล่าวตกลงไปในบ่อแล้ว อย่างไรก็ตาม การเปิดฝาปิดบ่อบำบัดนี้ น้ำหนัก 30กิโลกรัม มีหูจับ 2 ด้าน การจะเปิดต้องใช้คนช่วยกัน แต่ถ้ายกฝากมีน้ำหนักก็ต้องให้มากกว่า 2 คนยกฝาขึ้น แต่ถ้าหากโรงงานเปิดฝาเพื่อซ่อมบำรุงก็สามารถดำเนินการได้ ถ้าเปิดทิ้งไว้ ไม่ควรกระทำ แต่เมื่อดำเนินการซ่อมเสร็จแล้ว ควรจะปิดฝากบ่อบำบัดน้ำเสียให้มิดชิด เพราะเมื่อเปิดฝาขึ้นมา ก็น่าจะเกิดพลาดได้


อย่างไรก็ตาม ในช่วงเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ จึงไม่ทราบว่าขณะเกิดเหตุฝาบ่อบำบัดน้ำเสียเปิดอยู่หรือไม่ เป็นหน้าที่ของตำรวจจะสืบสวนต่อไป แต่การปฎิบัติงานในสถานที่ไม่ปลอดภัยและมีคนเสียชีวิตจึงให้ปิดโรงงานเฉพาะส่วนเพื่อปรับปรุง 

นายประเสริฐ ตปนียางกูร นายกสมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมประเทศไทย กล่าวว่า จากสภาพการณ์ดูแล้ว บ่อบำบัดน้ำเสีย เป็นพื้นที่ที่ไม่สะดวกนักที่จะเข้าไปบำรุงรักษา สำคัญที่สุดและขอย้ำคือ สถานที่เหล่านี้ไม่ใช่ให้ใครเข้าไปก็ได้ เป็นสถานที่หวงห้าม บุคคลที่จะเข้าไปต้องมีหน้าที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ช่างบำรุงรักษาบำบัด และจะต้องมีบุคคลที่คอยช่วยเหลือและต้องมีผู้ที่รู้เรื่องที่จะคอยดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในการช่วยเหลือ สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครทราบได้ว่าเกิดอะไรจริงในขณะนั้น แต่หลักการคือ สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่อับอากาศ ซึ่งอันตราย สถานที่นี้ เหล่านี้ ห้ามบุคคลภายนอกเข้าโดยไม่มีหน้าที่ เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องรับรู้อยู่แล้วและคงต้องให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพเป็นผู้วินิจฉัยให้เป็นข้อสรุปว่าการเสียชีวิตเพราะเหตุใด ส่วนเหตุการณ์ฝาบ่อบำบัดจะเปิดหรือไม่ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว จึงไม่อาจวิเคราะห์ได้เลยว่าฝาเปิดหรือปิดอยู่ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

วธ.สั่งสอบกัมพูชานำ 22 วรรณกรรมไทย สอดไส้ขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก

15 ก.ค. – ปลัดวัฒนธรรม สั่งตรวจสอบแล้ว หลังมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโกโดยประเทศอื่นๆ นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีรายชื่อวรรณกรรมไทยหลายรายการถูกนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับองค์การยูเนสโก โดยประเทศอื่นๆ นั้น กระทรวงได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประสานความร่วมมือกับกรมศิลปากร กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เนื่องจากกระบวนการพิจารณาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาตรวจสอบ กลั่นกรองข้อมูลอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่าหากได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนแล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบในโอกาสต่อไป เขมรเคลมฉก 22 วรรณกรรมไทยสอดไส้ขึ้นทะเบียนยูเนสโกแล้วก่อนหน้านี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JanJao K. Sisprakaew” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่เขมรนำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย รายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ถูกแต่งขึ้นโดยชาวไทย แต่ถูกเขมรนำไปขึ้นทะเบียนต่อ Unesco ในหัวข้อ “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ Cultural heritage of Cambodia” วรรณกรรมไทยเหล่านี้ถูกเขมรเคลมเป็นของตนเองเพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodiaโดยเขมรอ้างว่ารายชื่อวรรณกรรมเหล่านี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522-2545 จากละครเรื่อง […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ […]

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]