fbpx

เกษตรสร้างชาติ : ตาลโตนดใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น สร้างรายได้เสริม เฉลี่ยวันละ 1,000

ปัตตานี 25 มิ.ย. – สำนักงานเกษตรจังหวัดปัตตานีส่งเสริมเกษตรกรแปรรูปตาลโตนด ซึ่งเป็นพืชอนุรักษ์ที่มีอยู่จำนวนมากใน อ.ยะหริ่ง สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรเฉลี่ยวันละ 1,000 บาท 


ต้นตาลโตนดจำนวนมากยืนต้นเรียงรายอยู่ตามแนวคันนาของชาวบ้าน ม.5 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกษตรอำเภอยะหริ่งเผยว่ามีต้นตาลโตนดมากที่สุดในปัตตานีรวม 940 ไร่ กว่า 23,000 ต้น จะออกผลตั้งแต่เดือนเมษายน-กรกฎาคม เกษตรกรจะเก็บผลผลิตวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นงานเสริมจากทำนา ต้นตัวผู้จะให้น้ำตาลสดเก็บได้ 50-75 ลิตร/วัน ส่วนต้นตัวเมียจะออกผลเก็บได้ 20-40 กก/วัน น้ำตาลที่ได้จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ จำหน่าย 70 บาทต่อแกลลอน 5 ลิตร แต่ช่วงเดือนรอมฎอนจะขายดีมากเป็นพิเศษ เพราะชาวมุสลิมจะนิยมนำไปรับประทานในช่วงละศีลอด เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย


เกษตรกรที่นี่จะใช้เวลาว่างหลังจากทำนา ปีนต้นตาลโตนดเก็บผลผลิตจำหน่าย สร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรเฉลี่ยวันละ 1,000 บาท

นอกจากจำหน่ายน้ำตาลสดแล้วยังสามารถนำมาแปรรูปทำน้ำตาลแว่นตามวิถีดั้งเดิมของชาวบ้านด้วย ซึ่งสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้ำตาลแว่นรอฮานีจะนำน้ำตาลสดผสมน้ำตาลทรายเคี่ยวในหม้อร้อน 4-5 ชม. จนงวด แล้วหยอดใส่ในแว่นที่ทำมาจากใบตาล ทิ้งไว้ให้แห้งและแข็งตัวก่อนจะบรรจุใส่ถุงจำหน่าย ส่วนผลตาลจะนำไปทำแกงและขนมหวาน ผลตาลที่เหลือยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพได้ด้วย และเปลือกตาลนำไปเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงได้อีก การแปรรูปโดยไม่ใช่สารเคมีเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ 


ผลสำเร็จจากการร่วมแรงร่วมใจตามนโยบายประชารัฐ ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้มีผลิตภัณฑ์จากตาลโตนดมากมาย ทั้งน้ำส้มตาลโตนด น้ำตาลโตนดเหลว น้ำตาลแว่น และน้ำหมักจากตาลโตนดสูตรเร่งดอก ซึ่งเกษตรจังหวัดปัตตานีเตรียมผลักดันให้ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนต่อไป. – สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553