ส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง พ.ค.โตร้อยละ 13.2

นนทบุรี 22 มิ.ย. – กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกไทย 5 เดือนแรกยังขยายตัวต่อเนื่อง เดือน พ.ค.โตถึงร้อยละ 13.2 ในรอบ 52 เดือน มั่นใจส่งออกทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายโตร้อยละ 5 


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 19,944 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวในรอบ 52 เดือน เนื่องจากการค้าโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ภาพรวมการส่งออกทั่วโลกดีขึ้นไปด้วย ประกอบกับการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันกลับมาขยายตัวดีขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน และสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัวต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ที่ร้อยละ 17.6 โดยสินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยางพาราขยายตัวร้อยละ 44.7 รวมถึงข้าวและน้ำตาล ก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน และการส่งออกยังไปได้ดีทุกตลาด ขณะที่สินค้าที่ยังคงหดตัว ได้แก่ ทองคำ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบเป็นไปตามตลาดโลกที่สินค้ากลุ่มดังกล่าวยังไม่ขยายตัว


อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ 5 เดือนแรกที่ผ่านมาการส่งออกของไทยมีมูลค่า 93,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวถึงร้อยละ 7.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี ดังนั้น จึงมั่นใจว่าปีนี้น่าจะสามารถผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวร้อยละ  5 เป็นไปตามเป้าหมายได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะยังไม่มีการปรับประมาณตัวเลขการส่งออกปีนี้ แต่ยังคงต้องติดตามความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่เชื่อว่าจะเป็นการผันผวนระยะสั้น ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอยู่ แต่ทางผู้ส่งออกจะต้องทำประกันความเสี่ยงของค่าเงินไว้ด้วย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการขึ้นลงของราคาน้ำมัน ดังนั้น ทิศทางการส่งออกแต่ละเดือนหลังจากนี้อัตราการขยายตัวจะยังเป็นบวก แต่จะบวกเป็น 2 หลักได้อีกหรือไม่ คงต้องติดตาม

นอกจากนี้ ตัวเลขการนำเข้าเดือนพฤษภาคมมีมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.2 และการนำเข้า 5 เดือนแรก มีมูลค่า 88,211 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 15.2 ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุน และวัตถุดิบ แสดงถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยเดือนพฤษภาคม เกินดุล 944 ล้านดอลลาร์สหรัฐน และทำให้ 5 เดือนแรกเกินดุลรวม 5,054 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว