สุโขทัย 20 มิ.ย.- ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย ห่วงปัญหาสัตว์ปีกของเกษตรกร พบทยอยตายกว่า 1,000 ตัว จากโรคระบาดช่วงฤดูฝน ยันไม่ใช่หวัดนก เตรียมประชุมหามาตรการป้องกันเร่งด่วนพรุ่งนี้
นายจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย เปิดเผยถึงปัญหาสัตว์ปีกของเกษตรกรทยอยตายจำนวนมากว่า อากาศเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาล และขณะนี้ไก่ของเกษตรกรใน จ.สุโขทัย ทยอยตายแล้วกว่า 1,000 ตัว โดยตรวจพบการระบาดของโรค 2 ชนิด คือ โรคหลอดลมอักเสบ (หวัดหน้าบวม) และโรคอหิวาต์เป็ด-ไก่ (โรคตกคอน) ซึ่งไม่ใช่โรคไข้หวัดนกตามที่เข้าใจกัน ส่วนหนึ่งมาจากปีนี้ จ.สุโขทัย มีฝนตกมาก น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ทำให้เชื้อโรคที่อยู่ในดินและน้ำแพร่ระบาด นอกจากนี้ยังทราบว่า เกิดปัญหากับสัตว์ปีกอีก 6 จังหวัด คือ กำแพงเพชร อุทัยธานี พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก นครสวรรค์ รวมถึงบางจังหวัดทางภาคอีสาน
ปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัย อธิบายว่า สัตว์ปีกที่ติดเชื้อนี้จะมีอาการขี้ขาว หน้าดำหรือแดงจัด เหงาหงอย และตายได้ในที่สุด ส่วนการป้องกันขอให้เลี้ยงในโรงเรือน หรือกั้นตาข่าย ไม่ปล่อยให้เป็ดไก่ออกไปสัมผัสเชื้อ ฝนตกให้รีบต้อนเข้าเล้า หากมีตัวใดติดเชื้อให้รีบแยกออก แล้วให้วัคซีนป้องกัน และรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่ให้ทราบภายใน 12 ชม. เพื่อฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามพื้นเล้าหรือคอกที่เลี้ยง สำหรับสัตว์ตายให้นำไปฝังกลบ ห้ามโยนทิ้งตามแหล่งน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการเชิงรุกในการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ด้านนางจำลอง ทัพแว่ว อายุ 50 ปี ชาวบ้านแก่งหลวง หมู่ 13 ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง กล่าวว่า ไก่ทยอยตายวันละ 2-3 ตัว จนเกือบหมดเล้า แต่ละตัวมีอาการซึม กินน้ำมาก หน้าดำ จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ตาย แม้พยายามหยอดยารักษาแล้ว แต่ไม่เป็นผล และทราบว่ามีไก่ของผู้เลี้ยงหลายราย ทั้งใน อ.สวรรคโลก และต่างอำเภอ ตายไม่ทราบสาเหตุเกือบหมดเล้าเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย