นายกฯ ทำความเข้าใจกับวิศวกรรมสถานแล้ว

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- “พล.อ.ประยุทธ์” เผยทำความเข้าใจกับวิศวกรรมสถานแล้ว เรื่องใดที่ไทยดำเนินการได้ พร้อมให้มีส่วนร่วม ยังไม่ตัดสินใจ แหล่งเงินกู้ เดินหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน ที่ต้องใช้เม็ดเงิน 1.74 แสนล้านบาท 


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง แหล่งเงินกู้ในการเดินหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน ที่ต้องใช้เม็ดเงิน 1.74 แสนล้านบาท ว่า ขณะนี้ยังไม่ตัดสินใจว่าจะกู้เงินจากจีนหรือไม่ เป็นเพียงข้อเสนอจากทางการจีนเท่านั้น ซึ่งรัฐบาลจะพิจารณาจากแหล่งเงินกู้ ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด รวมถึงพิจารณาแหล่งเงินกู้ในประเทศด้วย

“เรื่องเงินกู้ผมยังไม่เคยพูดเลยว่า จะไปกู้เงินใครมา ในประเทศก็มีพอสมควร ซึ่งจีนก็ไม่เคยเรียกร้อง เพียงแต่เสนอข้อพิจารณามาว่า ถ้าใช้ของเขาดอกเบี้ยเท่าไหร่ ก็เอามาเปรียบเทียบเงินกู้ที่ใช้จากแหล่งอื่นมันต่ำกว่าหรือไม่ ถ้าตรงไหนต่ำกว่าก็ใช่ตรงนั่น เขาไม่เคยมาบังคับตรงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วงเงิน 1.74 แสนล้าน จะใช้ในส่วนโครงสร้างพื้นฐาน 1.3 แสนล้าน และใช้บริหารจัดการการเดินรถอีก 4 หมื่นล้าน ในส่วนของสัญญาโครงการนี้ ไม่มีผลต่อรถไฟในเส้นทางอื่น ๆ เพราะรถไฟที่เหลืออาจจะดำเนินการในลักษณะอื่น ไม่ว่าจะเป็นไปประมูล ไปร่วมทุน หรือจะให้เอกชนลงทุนในรูป PPP  แต่เส้นนี้ถือเป็นเส้นแรกที่ต้องเกิดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้  จะคิดเฉพาะรายได้จากการโดยสารเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลจะเข้าไปดูข้อกฏหมาย เพื่อให้เกิดการพัฒนาประโยชน์จากสองข้างทางด้วย  เชื่อว่าจะเกิดการลงทุนอื่น ๆ ตามมา รวมถึงเกิดเมืองใหม่ ซึ่งผลประโยชน์จะตกกับประชาชนโดยตรง

“วันนี้ผมให้แนวทางข้าราชการใหม่ทั้งหมด ต้องมองว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไรต่อไปในอนาคต “make different for future” make different คือ ให้มันต่างจากของเดิม ส่วน for future ไม่ใช่มองวันนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่มองข้อขัดแย้ง มองปัญหา มองเรื่องทุจริต ซึ่งเราพยายามแก้ทุกอัน เพื่อไป future วันนี้ทำงานแบบหาเป้าหมายให้เจอ ให้ตรงกลุ่ม ไม่ใช่ทั่งหมดโปรยปรายไปทั้งหมด เท่ากันหมด มันไม่ได้ แต่ต้องจัดสรรงบประมาณให้เหมาะกับทุกภาคส่วน ต้องเฉลี่ยรายได้ให้ลงมาสู่คนที่มีรายได้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลคิดมาตลอดเวลา ต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ต้องไม่ได้รับผลประโยชน์ลดลงจากเดิมที่เคยได้อยู่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนข้อกังวลของวิศวกรรมสถาน ได้หารือกัน และทางวิศวกรรมสถานมีความเข้าใจแล้ว ซึ่งในประเด็นที่มีความกังวล ไม่ว่าเรื่องวิศวกร การถ่ายทอดเทคโนโลยี ทางการไทยได้เจรจามาโดยตลอด ซึ่งมีข้อตกลงมาแล้วถึง 18 ครั้ง ในกิจกรรมใดที่ไทยสามารถทำได้ ก็ให้ดำเนินการไปอยู่แล้ว แต่ติดเพียง 3-4 ข้อ ที่เป็นปัญหา จึงนำไปสู่การออกมาตรา 44 โครงการนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์กับใครเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”