กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- สามีหญิงพลัดตกรางรถไฟฟ้าสถานีทับช้าง ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ไม่พร้อมให้ปากคำอย่างละเอียด เบื้องต้นทราบเพียงผู้ตายตั้งครรภ์ 6 เดือน และมีอาการหน้ามืดบ่อยครั้ง ยันไม่มีปัญหาส่วนตัว ญาติเตรียมรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดพรุ่งนี้
ร.ต.อ.ปรีชา บุญอารีย์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟมักกะสัน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีหญิงพลัดตกรางรถไฟฟ้าสถานีทับช้าง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) ว่า ขณะนี้ตำรวจนำศพไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมเชิญตัวนายปิยะพงษ์ รอบคอบ สามี มาสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวยังไม่สะดวก แต่จากการพูดคุยเบื้องต้นทราบว่า แฟนสาวตั้งท้องและมีอาการหน้ามืดอยู่บ่อยครั้ง โดยช่วงเช้าได้ไปส่งทำงานตามปกติ และส่งข้อความไปหาทางไลน์ว่า ถึงที่ทำงานหรือยัง แต่ไม่มีการตอบกลับ ประกอบกับทราบข่าวจากทางโซเชียลมีเดียว่า มีคนพลัดตกรางรถไฟฟ้า ทำให้รู้สึกเป็นห่วง จึงขับรถกลับไปหาที่สถานีรถไฟฟ้าทับช้างอีกครั้ง พบเหตุจึงขอเข้าไปดู โดยตำรวจให้ดูซองยา จนมั่นใจว่าเป็นของแฟนสาว และไปดูกล้องวงจรปิด จึงสามารถยืนยันตัวตนได้ ส่วนข้อมูลเรื่องการทะเลาะวิวาทก่อนเกิดเหตุหรือไม่นั้น ยังไม่มีการสอบถามในส่วนนี้
ขณะที่ตำรวจยังไม่สอบปากคำสามีของผู้เสียชีวิต เนื่องจากเจ้าตัวให้เหตุผลว่า ต้องการให้เสร็จสิ้นงานศพก่อน ซึ่งตำรวจได้ทำใบติดต่อขอรับศพให้กับญาติแล้ว คาดว่าจะสามารถรับศพได้ในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.)
ขณะที่สามีของผู้เสียชีวิตยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันก่อนเกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งรายละเอียดขอให้ผ่านงานศพไปก่อน และในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. จะเดินทางไปติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.น่าน ต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจรถไฟ เปิดเผยถึงกรณีที่ น.ส.รสรินทร์ เปลี่ยนหล้า ตกลงไปในรางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ แล้วถูกรถไฟฟ้าทับร่างจนเสียชีวิต ว่า จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายปิยะพงษ์ รอบคอบ สามีของ น.ส.รสรินทร์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาส่งที่สถานีดังกล่าว เพื่อเดินทางไปทำงานตามปกติ ซึ่งจะเดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีนี้เป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ น.ส.รสรินทร์ ได้เกิดอาการเสียการทรงตัว จนพลัดตกลงไปในรางรถไฟ ซึ่งมีรถไฟขบวนเปล่า ซิตี้ 04 กำลังมุ่งหน้าเข้าอาคารจอดรถ ทำให้ถูกรถไฟชนจนเสียชีวิต
ขณะที่การสอบปากคำพยานแวดล้อม 2 คน ที่อยู่ใกล้เคียงกับ น.ส.รสรินทร์ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตมีอาการเซไปมา และพยายามยืนตั้งหลัก โดยหันหน้าไปทางรางรถไฟ แต่ไม่สามารถยืนได้ จึงตกลงไปในที่สุด ซึ่งระหว่างเกิดเหตุมีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์บางคนพยายามจะลงไปช่วยเหลือ แต่เนื่องจากมีขบวนรถไฟมาพอดี จึงไม่สามารถลงไปช่วยได้ทัน สร้างความตกตะลึงแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ จากการสอบสวนไม่พบว่า น.ส.รสรินทร์ มีปัญหาส่วนตัวแต่อย่างใด จึงไม่มีมูลเหตุจงใจว่าผู้เสียชีวิตจะฆ่าตัวตาย รวมถึงตรวจสอบแล้วไม่พบการกระทำความผิดในทางอาญา ซึ่งสามีของ น.ส.รสรินทร์ ให้การว่า ได้คบหาดูใจกันมา 10 ปี ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกันได้ 2 ปี และ น.ส.รสรินทร์ กำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน.-สำนักข่าวไทย