กรุงเทพฯ 16 มิ.ย.-“เรืองไกร” ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบ ครม.-สนช.พิจารณา 2 ร่างกฎหมายปฏิรูปประเทศไม่ชอบ เหตุรัฐธรรมนูญยังไม่ประกาศใช้ แต่กลับอ้างรัฐธรรมนูญออกกฎหมาย ทั้งที่ีรัฐธรรมนูญยังไม่มีผลบังคับใช้ แนะ ครม.ถอนร่างกลับไปแก้ไข อย่าปล่อย สนช.โหวตวาระ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิภสา เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายสงัด ปัถวี รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลปกครองว่าการเสนอและการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ พ.ศ… และร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ… เข้าลักษณะเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (2) หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ร่างพระบัญญัติ 2 ฉบับดังกล่าว ทราบว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะมีการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ แต่จากที่ได้ตรวจสอบ พบว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับเมื่อวันที่ 4 เมษายน และนายกรัฐมนตรีลงนามหนังสือถึงประธาน สนช. ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้พิจารณาในวันเดียวกัน และเมื่อมาตรวจสอบในส่วนของเหตุผลประกอบร่างกฎหมายดังกล่าว พบว่ามีการอ้างบทบัญญัติมาตรา 65 ของรัฐธรรมนูญ 60 ในการตรา พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ…. และบทบัญญัติมาตรา 259 ในการตรา พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวไปยัง สนช. รัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 65 และ 259 ยังไม่มีผลใช้บังคับ การระบุเหตุผลในการตราร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ จึงไม่ถูกต้อง เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 60 มีการประกาศและมีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 เมษายน จึงเห็นว่าการเสนอและการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ โดยอ้างบทบบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 60 ก่อนที่จะมีผลใชับังคับนั้น เข้าข่ายเป็นกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (2)
“ฝากถึงคณะรัฐมนตรี และ สนช.ว่าจะทำยังไงก็ได้ ขอให้นำร่างนี้กลับไปพิจารณาใหม่ ร่างกฎหมาย 2 ฉบับนี้ไปต่อไม่ได้ เพราะสมัยที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็น สนช. และนายมีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานวุฒิสภา มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยทักษิณ ตัวเนื้อกฎหมายหรือตัวบทกฎหมายไม่ได้มีปัญหา แต่มีการอ้างวรรคกฎหมายผิด นายวิษณุก็อภิปรายเอง เรื่องพวกนี้จะผิดและปล่อยผ่านไปไม่ได้ ดังนั้นร่างพระราชบัญญัติ 2 ฉบับที่ สนช.กำลังจะมีการพิจารณาวาระสาม ในวันที่ 22 มิถุนายน จึงไม่ควรที่จะเป็นการพิจารณาเพื่อตราเป็นกฎหมาย เพราะถ้าเลยไปถึงชั้นนั้น ก็ต้องมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ที่ประชุม สนช.จึงควรพิจารณาคว่ำร่าง หรือถ้าจะให้เกิดผลเสียน้อยที่สุด คณะรัฐมนตรีก็ควรจะเสนอขอถอนร่างกลับไป เพื่อนำไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาใหม่ให้ถูกต้องและเสนอกลับมาให้ สนช.พิจารณาทีเดียว 3 วาระรวดก็ได้ ก็จะทำให้ผู้ตรวจฯ หมดประเด็นที่จะวินิจฉัยและสั่งยุติเรื่องได้เช่นกัน รวมถึงการนำร่างกฎหมายไปพิจารณาใหม่ ก็ไม่น่าทำให้การออกกฎหมายดังกล่าวช้า จนเกินกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่รัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้” นายเรืองไกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย