ทำเนียบฯ 16 มิ.ย.- รัฐบาลสั่งตั้งศูนย์ควบคุมกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เชื่อมโยงแบบเรียลไทม์ เร่งซ่อมส่วนที่ชำรุด พร้อมติดตั้งเพิ่มอีกกว่า 40,000 ตัว ให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ให้ มท.ดูภาพรวยม DE จัดเก็บข้อมูล เตรียมให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมาขึ้น
รัฐบาลสั่งสำรวจกล้องวงจรปิดชำรุด เร่งติดตั้งให้ครอบคลุมทั่วประเทศ หวังเชื่อมโยงการทำงานทุกหน่วยแบบบูรณาการงานดูความปลอดภัย พร้อมตั้งศูนย์ควบคุมจังหวัดให้ตำรวจและมหาดไทยรับผิดชอบ มีดีอีจัดเก็บข้อมูล
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ว่า จากการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจ CCTV ทั้งที่เป็นของส่วนราชการและเอกชน เฉพาะที่ฉายเข้าไปในที่สาธารณะ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งผลการสำรวจ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งสิ้นกว่า 300,000 ตัว โดยนายกรัฐมนตรีให้นโบายว่า ในส่วนของกล้องที่เป็นของส่วนราชการที่ชำรุด จะต้องดำเนินการแก้ไขให้เสร็จโดยเร็ว โดยหัวหน้าส่วนราชการต้องรับผิดชอบ
“นอกจากนี้ จะต้องมีการติดตั้งเพิ่มอีก 40,000 กว่าตัว เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด โดยนายกรัฐมนตรีมองว่า กล้อง CCTV เป็นเรื่องความมั่นคง และจะนำเข้าหารือในสภาความมั่นคงด้วย” พล.ต.คงชีพ กล่าว
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนเชื่อมโยงบูรณาการการการใช้กล้อง CCTV และการบริหารจัดการในภาพรวม โดยกำหนดให้มีการตั้งศูนย์ควบคุมระดับจังหวัด ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ให้ฝ่ายปกครองและตำรวจสามารถทำงานร่วมกันได้ทั่วประเทศ
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ในการจัดตั้งศูนย์ควบคุม พิจารณาจากความพร้อมของแต่ละพื้นที่ แต่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นหน้าที่ของ กอ.รมน.ภาค 4 จะพิจารณา ขณะที่ ส่วนกลางจะมีหน่วยงานตำรวจและกระทรวงมหาดไทยดูแลในภาพรวม ข้อมูลการจัดเก็บจะเป็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) โดยจะเริ่มเปิดระบบการใช้งานในวันที่ 19 มิถุนายน นี้
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้น โดยหามาตรการ จูงใจ ด้วยสิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษี และการไฟฟ้า โดยตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ คือ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงระบบ CCTV มีกระทรวงดิจิทัลเป็นผู้รับผิดชอบ สำรวจความพร้อมและความเชื่อมโยงของระบบเวลาใน 90 วัน และคณะอนุกรรมการกำหนดแผนระบบการเชื่อมโยงและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล มีกระทรวงมหาดไทย นับผิดชอบ ซึ่งจากนี้ทั้ง 2 หน่วยงานจะประชุมหารือร่วมกันอีกครั้ง
“พล.อ.ประวิตรได้สั่งการเพิ่มเติม ให้ทุกส่วนราชการและจังหวัด ร่วมกันสำรวจอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีกล้อง CCTV ที่ยังตกสำรวจอีกหรือไม่ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาบริหารจัดการ ที่สำคัญกล้องจะต้องมีความเชื่อมโยง และสามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองได้” พล.ต.คงชีพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลา และการตั้งงบประมาณ เนื่องจากต้องสำรวจกล้อง CCTV ที่ต้องการเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นก่อน และยังไม่สามรถระบุได้ว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้ดูแลการจัดซื้อ แต่คุณสมบัติของกล้องต้องใกล้เคียงกัน เพื่อให้ข้อมูลสามารถลิงค์ต่อกันได้โดยไม่มีปัญหา .- สำนักข่าวไทย