วางระบบ CCTV 22,848 ตัว คุมเข้มความปลอดภัยเอเปค

กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – ผบ.ตร. วางระบบ CCTV 22,848 ตัว ครอบคลุมทุกพื้นที่ คุมเข้มความปลอดภัยประชุม APEC 2022 เชื่อมั่นทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ห่วงกลุ่มผู้ชุมนุมขวางการประชุม เตรียมแผนพร้อมรองรับไว้แล้ว


วันนี้ (17 พ.ย.65) เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รอง ผอ.กองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรฯ การประชุม APEC 2022 เป็นประธานประชุมขับเคลื่อน กอ.ร่วมฯ ติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว สภาพภูมิอากาศ และแผนการปฏิบัติรักษาความปลอดภัยและการจราจรประจำวัน บูรณาการทุกภาคส่วน รวมกว่า 30 หน่วยงาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมการปฏิบัติมีความพร้อมทุกภาคส่วน และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การจราจรยังคล่องตัวดี เนื่องจากรัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราการ มีการติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวทั้งในและนอกพื้นที่ กทม. อย่างใกล้ชิด


ด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV เขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 17,848 ตัว และส่วนภูมิภาคในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี และ สมุทรปราการ อีกจำนวน 5,000 ตัว รวมทั้งสิ้น 22,848 ตัว มั่นใจว่าครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อการรักษาความปลอดภัย หากมีใครเข้ามาก่อเหตุ จะถูกตรวจจับด้วยกล้องทันที นอกจากนี้ ยังมีการตั้งจุดตรวจเป็นใยแมงมุม ครอบคลุมทุกเส้นทาง โดยเฉพาะสถานที่ประชุม ที่พักผู้นำ เส้นทาง และสถานที่สำคัญต่างๆ โดยใช้เจ้าหน้าที่กว่า 35,000 นาย พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สำหรับการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้

ส่วนสถานการณ์การข่าวที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวที่แยกอโศกมายื่นข้อเรียกร้องต่อการประชุมเอเปคที่ศูนย์สิริกิติ์ ขอเตือนผู้ที่จะชุมนุมและเข้าร่วมการชุมนุมว่า การชุมนุมต้องมีการแจ้งการชุมนุมล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 24 ชม. เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถดูแลการชุมนุมได้สะดวก และควรใช้สถานที่ที่จัดไว้ให้ ไม่ควรสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้ที่สาธารณะหรือสัญจรไปมา และไม่ควรขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมเอเปค ดังนั้น หากมีการฝ่าฝืนกฎหมายเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ซึ่งอาจมีโทษจำคุกสูงถึง 6 เดือน ขอความร่วมมือให้ทุกคนคำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศด้วย

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกฝ่ายให้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ดูแลสวัสดิการ บำรุงขวัญ ตรวจสอบการปฏิบัติ และขอยืนยันความพร้อมในการการรักษาความปลอดภัยและการจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ในวันนี้จะมีการเดินทางเข้าประเทศไทยของผู้นำเขตเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง กองอำนวยการฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่าย ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด และขอให้ทุกหน่วยร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่างสอดคล้องกัน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และหากมีข้อมูล เบาะแส สิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตลอดเวลา โทร.191 หรือ 1599” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย