พาณิชย์เร่งผลักดันแผนขยายตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศ

นนทบุรี 2 พ.ย. – นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559/2560 ซึ่งจะออกสู่ตลาดมากในช่วงพฤศจิกายน – ธันวาคมนี้ โดยมีการดำเนินการทั้งมาตรการเพื่อยกระดับราคาภายในประเทศและผลักดันการส่งออก ทั้งมาตรการระยะสั้นและมาตรการระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้นโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสตอก โดยจะชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อรับซื้อข้าวเปลือกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึง 31 มีนาคม 2560 และเก็บสตอกข้าวระยะเวลา 2 – 6 เดือน อัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งขณะนี้อนุมัติการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 345 ราย วงเงินสินเชื่อที่รับซื้อข้าวเปลือก 85,917.87 ล้านบาท เป้าหมายการเก็บสตอกประมาณ 8 ล้านตัน


โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะให้สินเชื่อแก่เกษตรกร สหกรณ์การเกษตร   กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือกเก็บในยุ้งฉางอัตราตันละ 11,000 บาท ณ ต้นข้าว 36 กรัมขึ้นไป และเกษตรกรจะได้รับค่าเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บเพิ่มจากเงินสินเชื่ออีก ตันละ 1,500 บาท โดยจะจ่ายให้พร้อมสินเชื่อ 1,000 บาท และจ่ายเมื่อไถ่ถอนข้าวหรือระบายข้าวแล้วตันละ 500 บาท เป้าหมายการเก็บสตอกประมาณ 2 ล้านตัน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันสถาบันเกษตรกร โดย ธ.ก.ส.จะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อนำไปซื้อข้าวจากสมาชิกเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งสถาบันเกษตรกรจะรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 เป้าหมาย 2.5 ล้านตัน

นอกจากนี้ โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อให้กลไกตลาดการรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกรมีการแข่งขัน เกษตรกรมีช่องทางเลือกและมีอำนาจต่อรองการขายข้าวเปลือก พาณิชย์จังหวัดกำหนดแผนการจัดตลาดนัดในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในพื้นที่แล้ว  42 จังหวัด 102 ครั้ง โดยในส่วนการช่วยเหลือโดยตรงแก่เกษตรกร รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือในช่วงก่อนการเพาะปลูก ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิตไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเกษตรกรผลิตข้าว 1 ตัน ใช้พื้นที่เพาะปลูกประมาณ  2 ไร่เศษ ในส่วนนี้เกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ประมาณกว่า  2,000  บาทต่อตัน ประกอบกับมาตรการขอความร่วมมือลดต้นทุนการผลิต ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการเพาะปลูก รวมทั้งการพักชำระหนี้ให้เกษตรกร ดังนั้น ปีการผลิต 2559/2560 อีกประมาณตันละ 1,000 บาท เกษตรกรจะได้รับรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายผลผลิตข้าวเปลือกตามมาตรการดังกล่าวอีกไม่ต่ำกว่าตันละ 3,000 บาท


ส่วนมาตรการระยะยาวจะดำเนินการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การบริหารจัดการข้าวทั้งระบบให้สอดคล้องเป็นไปตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยมุ่งเน้นให้การตลาดนำการผลิต วางแผนการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับปริมาณและลักษณะความต้องการของตลาด คือ การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตลาดคู่ค้าสำคัญและขยายโอกาสทางการค้าไปยังตลาดใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมให้เข้มแข็งและสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล และเอกชนต่อเอกชน การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาโดยมุ่งสนับสนุนเรื่องพื้นฐานในการดำรงชีวิต เช่น ค่าครองชีพ และค่าศึกษาเล่าเรียนบุตร เป็นต้น และยังมีแผนเสริมเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการบริโภคและยกระดับราคาข้าว คือ กระตุ้นการบริโภคข้าวภายในประเทศ โดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเข้าใจถึงคุณค่าทางโภชนาการของข้าว คุณภาพแต่ละชนิดที่มีประโยชน์สูงและดีต่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์ ข้าว GI  ข้าวสี รวมทั้งส่งเสริมตลาดข้าวในกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นสุขภาพและแพ้สารกลูเตนในข้าวสาลี ดังนั้น โอกาสที่ผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยที่ไม่มีสารกลูเตนจะไปทดแทนผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีจะมีมากขึ้น และสร้างค่านิยมการบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ทั้งข้าวขาว ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวเหนียว เพื่อลดการบริโภคอาหารต่างชาติ

จัดตลาดนัดข้าวสารและข้าวเปลือก เพื่อเป็นแหล่งศูนย์กลางให้คนไทยได้ซื้อข้าวเพื่อเก็บไว้บริโภคในครัวเรือนตามแหล่งชุมชนในย่านต่าง ๆ และผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หารือกับสมาคมผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร ภัตตาคาร และห้างสรรพสินค้า เพื่อให้เพิ่มปริมาณสำรองในการจัดซื้อข้าวไว้ใช้ในการดำเนินกิจการ  นอกจากนี้ จัดกิจกรรม CSR ข้าวไทยร่วมใจช่วยชาวนา รณรงค์ให้ภาคเอกชนและประชาชน ซื้อข้าวเป็นของขวัญเพื่อ ส่งมอบให้กันในช่วงวันปีใหม่ การยกระดับราคาข้าวโดยการเร่งขยายตลาดในต่างประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผน Roadshow เร่งรัดหาตลาดส่งออกข้าวใหม่ ๆ รวมทั้งพบปะกับลูกค้าเดิมเพื่อรักษาตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยจากนี้ไปกระทรวงมีแผน Road Show ที่จะบุกตลาดข้าวทั้งลักษณะ G2G  B2B และ B2C ในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล (G2G) มีแผนจะเดินทางไปมาเลเซียวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2559 อินโดนีเซียวันที่ 3-4 พฤศจิกายน  2559 และฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 59  และเดินทางไปจีน อิหร่าน  อิรัก และแอฟริกา เดือนธันวาคม 2559 และกุมภาพันธ์ –เมษายน 2560 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ผลักดันเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลและตลาดต่างประเทศที่เสียไป ให้หันกลับมาซื้อข้าวไทย โดยรัฐบาลได้ดำเนินการส่งมอบข้าวภายใต้สัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และสามารถทำสัญญาเพิ่มกับรัฐบาลต่างประเทศอีกปริมาณรวมกว่า 2,555,000 ตัน โดยแบ่งเป็นสัญญากับ COFCO สาธารณรัฐประชาชนจีน ปริมาณ 1,000,000 ตัน NFA สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ปริมาณ 900,000 ตัน BULOG สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ปริมาณ 655,000 ตัน ทำให้สามารถหาตลาดรองรับทั้งสต็อกข้าวเก่าและข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่ออกสู่ตลาดได้ในปริมาณมาก

ส่วนในระดับเอกชน (B2B) จะมีคณะผู้แทนการค้าจาก จีน ฮ่องกง อาเซียน สหรัฐ คานาดา และยุโรป เดินทางมาเจรจาการค้า ที่ประเทศไทยในระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนรุกตลาด เพิ่ม คือ คณะผู้แทนการค้าเดินทางไปขายข้าวที่จีนและฮ่องกงในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2560 และช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 แผนจัดคณะไปยุโรป  ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา  แคนาดาช่วงเดือน กุมภาพันธ์  มีนาคม มิถุนายน/กรกฏาคม 2560 แผนไปญี่ปุ่นช่วง 7-10 มีนาคม 2560  และไปย้ำตลาดอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ เวียดนามในช่วงกลางปีหน้า โดยจะนำมาหารือกับภาคเอกชนเร็ว ๆ นี้


ในระดับผู้บริโภค (B2C) ในต่างประเทศจะร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศจัดกิจกรรมร่วมกับ Thai Select รายภูมิภาค เพื่อรณรงค์บริโภคข้าวไทยไร้ Gluten โดยจะทำพร้อม ๆ กันเป็นรายภูมิภาค ส่วนจะเป็นเดือนไหนขณะนี้ได้สั่งการสำนักงานในต่างประเทศให้จัดทำแผนเข้ามาแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับห้าง Tesco ในประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเน้น Theme ข้าวไทย ซึ่งกำลังเจรจากับบริษัทแม่ในอังกฤษ เพื่อจะจัดใน TESCO ประเทศอื่น ๆ ด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งปัจจุบัน TESCO มีการลงทุนใน 12 ประเทศทั่วโลก และมีสาขากว่า 6,900 สาขาเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ