เส้นทาง “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล” สู่มือ 1 ของโลก

12 มิ.ย.-วันนี้ชาวไทยได้ยินดีอย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลก จากการคว้าแชมป์ LPGA ทัวร์อีก 1 รายการที่แคนาดา ช่วงนี้เราย้อนไปติดตามเส้นทางกว่าจะขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกของโปรเม


“เอรียา จุฑานุกาล” เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2538 ที่กรุงเทพมหานคร ฟ้ากำหนดให้เธอเกิดมาคู่กับกีฬากอล์ฟ เพราะการที่ครอบครัวมีธุรกิจร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ ทำให้เธอเริ่มสนใจและได้ฝึกฝนกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบครึ่ง ซึ่งเมื่อครอบครัวจุฑานุกาลเห็นแววทั้งเธอและพี่สาว จึงตัดสินใจให้ฝึกฝนอย่างจริงจังตามโปรแกรมสร้างนักกีฬา โดยจะต้องฝึกทั้งทักษะกอล์ฟ และว่ายน้ำเสริม เพื่อสร้างสรีระและความแข็งแรง  อีกทั้งยังทุ่มทุนมหาศาลเพื่อตระเวนแข่งขันหาประสบการณ์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ถึงขั้นยอมขายธุรกิจและทรัพย์สิน เพื่อส่งให้น้องเม ไปให้ถึงฝั่งฝัน


เธอเริ่มต้นผลงานระดับเยาวชนโลกด้วยการคว้าอันดับ 5 ร่วม ในกอล์ฟเยาวชนชิงแชมป์โลก ปี 2004 ในขณะอายุ 8 ขวบ และมาคว้าตำแหน่งรองแชมป์ในอีก 2 ปีถัดมา

ในปี 2007 ขณะที่เอรียา อายุเพียง 11 ขวบ  เธอก็สร้างปรากฏการณ์อันน่าทึ่งให้วงการกอล์ฟโลก เมื่อสามารถเอาชนะรุ่นพี่ๆ คว้าแชมป์รายการคัดเลือกไวลด์การ์ดเข้าแข่งขันกอล์ฟฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2007 ทำสถิติเป็นนักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดเพียง 11 ปี 11 เดือน ที่ได้แข่งขันในแอลพีจีเอทัวร์ โดยจบอันดับที่ 51 ร่วม และได้รับการสนับสนุนงบตระเวนแข่งขันอย่างจริงจังจาก SCG ในอีก 2 ปีถัดมา


และในปี 2011 ด้วยผลงานที่โดดเด่นในระดับสมัครเล่น เอรียา ได้เข้าร่วมการแข่งขันใน LPGA ทัวร์ อีกถึง 3 รายการ ในฐานะนักกอล์ฟนักกอล์ฟรับเชิญ และคว้าอันดับ 8 ร่วมในกอล์ฟฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ 2011 ในขณะอายุ เพียง 15 ปี ทั้งยังสร้างผลงานในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ประกาศเทิร์นโปรในปี 2012 ขณะอายุเพียง 16 ปี

ต้นปี 2013 โปรเม วัย 17 ปี ทำให้หัวใจชาวไทยพองโต เมื่อเธอขึ้นนำในวันสุดท้ายของการแข่งขันกอล์ฟฮอนด้า LPGA ไทยแลนด์ และนำอันดับ 2 ถึง 2 สโตรก ก่อนเล่นหลุมสุดท้าย แต่ครั้งนั้นเธอต้องเดินออกจากสนามด้วยคราบน้ำตา จากการทำทริปเบิลโบกี้ และเสียถึง 3 สโตรก ในหลุมสุดท้าย พลาดแชมป์อย่างน่าเสียดาย

อย่างไรก็ตามในอีก 2 เดือนถัดมา โปรเม ก็คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพรายการแรกได้สำเร็จ ในกอล์ฟเลดี้ส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ลัลลา เมอร์เยม คัพ ปี 2013 และในขณะที่ผลงานกำลังรุ่งเอง โปรเม ต้องพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่อีกครั้ง เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บถึงขั้นเอ็นหัวไหล่ฉีกขาดระหว่างฝึกซ้อม ต้องหยุดการแข่งขันและทำกายภาพอยู่เกือบปี กว่าที่จะกลับมาลุยแข่งขันได้อีกครั้ง แต่ก็เหมือนกับจะเป็นช่วงการพักทำร่ายกายให้สมบูรณ์เต็มที่ รอที่จะเข้าสู่ LPGA ทัวร์แบบเต็มฤดูกาลในวัย 20 ปี ตามกฎของ LPGA และในปี 2015 นี้เองคือจุดเริ่มต้น การไล่ล่าเก็บคะแนนสะสมอันดับนักกอล์ฟโลกอย่างจริงจังของเธอ โดยในการเล่นเต็มทัวร์ปีแรกนี้ โปรเม สร้างผลงานติดท็อปเทนหรือ 10 อันดับแรก ถึง 4 รายการ

กระทั่งเดือนปี 2016 ซึ่งเป็นปีทองของ “โปรเม” กับการคว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการภายในปีเดียว ซึ่ง 3 ใน 5 คือการคว้าแชมป์แอลพีจีเอ 3 รายการติดในเดือนพฤษภาคม ทั้งโยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิก, คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิพ และแอลพีจีเอ วอลวิค แชมเปียนชิพ ก่อนที่เธอจะประกาศศักดาคว้าแชมป์ ริโกะ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น โดยเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์กอล์ฟเมเจอร์รายการสำคัญรายการนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสัปดาห์ที่ชาวไทยได้ดีใจกันอีกครั้ง เพราะแม้โปรเม มือ 2 ของโลก และลิเดีย โค มือ 1 ของโลก จะไม่ลงแข่งขันในรายการช็อปไรท์ แอลพีจีเอ คลาสสิก แต่กราฟิกในการถ่ายทอดสดการแข่งขันก็บอกว่า หาก ริว โซ ยอน ไม่จบใน 3 อันดับแรกของรายการ จะทำให้ โปรเม มีคะแนนแซง ลิเดีย โค ขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกทันที และสื่อทั้งไทยและต่างประเทศก็ประโคมข่าวพร้อมยินดีกับเธอ แต่แล้วหลังจบการแข่งขันชาวไทยก็ดีใจเก้อ เมื่อแอลพีจีเอยอมรับว่าคำนวณคะแนนผิดพลาด โดยโปรเม ยังเป็นมือ 2 ตาม ลิเดีย โค อยู่ 0.01 คะแนน

แต่สุดสัปดาห์นี้ ชาวไทยก็ร่วมลุ้นระทึกอีกครั้งด้วยเงื่อนไข การคว้า 1 ใน 5 ของรายการมานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิก เพื่อขยับขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกให้ได้ แต่โปรเม ทำได้มากกว่านั้น จากที่ผลงานไม่ดีใน 2 วันแรก เธอตีตื้นจนมาคว้าแชมป์จากการดวลเพลย์ออฟ และขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกอย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งทำให้เธอเป็นนักกีฬาไทยคนที่ 3 ที่คว้าตำแหน่งมือ 1 ของโลกต่อจาก “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตัน และ “น้องณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร ที่เคยขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของแต่ละกีฬามาแล้วก่อนหน้านี้ 

ส่วนในปีนี้ยังเหลือการแข่งขัน LPGA ทัวร์อีก 20 รายการ ซึ่งขณะนี้โปรเมวางแผนไม่ลงแข่งขัน 1 รายการ ในสัปดาห์ก่อนการแข่งขันวีเมนส์ PGA แชมเปียนชิพ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันระดับเมเจอร์อย่างเต็มที่ ซึ่งหากเธอคว้าแชมป์เมเจอร์ได้สัก 1 รายการในปีนี้ ก็แทบจะการันตีการจบฤดูกาลด้วยการเป็นมือ 1 ของโลกได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]