กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-รองปลัด พม.เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีและรมว.พัฒนาสังคมฯ เยี่ยมให้กำลังใจเด็กชายอายุ 8 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง พร้อมมอบของขวัญจากนายกรัฐมนตรี
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลัง ใจ เด็กชายธรรมสมิต นวเศรษฐกุล หรือน้องเต้าอี้ อายุ 8 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้รถวีลแชร์ แต่มีความพยายามในการดำเนินชีวิตให้เหมือนเด็กปกติ สามารถไปโรงเรียนและร่วมกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนร่วมกับเพื่อนได้อย่างดี โดยเด็กชายได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีที่เป็นขวัญใจและกำลังใจ มีใจความว่า อยากเจอลุงตู่ อยากชวนไปดูภาพยนตร์เรื่อง Gleason (เป็นหนังเกี่ยวกับเรื่องนักกีฬาคนพิการ) แต่ตนเองไม่สามารถเดินทางไปรับลุงตู่ได้ เนื่องจากพิการ และได้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบหมายให้นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) เป็นผู้แทนในการเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมนำจดหมายและของขวัญจากนายกรัฐมนตรีไปมอบให้เด็กชายดังกล่าว ณ โรงเรียนมีนประสาทวิทยา เขตมีนบุรี
นางนภา กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ พม.ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาเยี่ยมและให้กำลังใจพร้อมมอบของขวัญและจดหมายให้เด็กชายดังกล่าว โดยข้อความที่เขียนถึงเด็กชายมีใจความว่า “ขอเป็นกำลังใจให้น้องเต้าอี้ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็ว รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาด้าน สาธารณสุขให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ดูแลประชาชนทุกคน เราต่างก็ต้องเป็นกำลังใจให้กันและกันนะครับ รักและห่วงใย ลงชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ลุงตู่ของเต้าอี้)”
ทั้งนี้ภายหลังที่เด็กชายได้รับของขวัญและอ่านข้อความของนายกรัฐมนตรี เด็กชายรู้สึกดีใจ และมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น พร้อมฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรีด้วย
นางนภา กล่าวเพิ่มเติมว่า พม. โดยตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.)ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจ พบว่า เด็กชายดังกล่าวพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย แต่มีความขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อนได้ดี ซึ่งพ่อแม่ของเด็กได้ให้การเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เพื่อให้น้องสามารถมาเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กปกติ ทั้งนี้ ขอชื่นชมเด็กชายดังกล่าวที่มีความมุ่งมั่นขยันหมั่นเพียร โดยไม่นำความพิการมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต สำหรับแนวทางการช่วยเหลือนั้น ได้มีการให้คำปรึกษาในการวางแผนด้านการศึกษาของเด็กในระยะยาว เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ในอนาคต .-สำนักข่าวไทย