กรมเชื้อเพลิงฯ ชง 2 แนวทางแก้ไขพื้นที่ปิโตรเลียมใน ส.ป.ก.

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย. – กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเสนอ 2 แนวทางแก้ปัญหาพื้นที่ปิโตรเลียมในที่ดิน ส.ป.ก. ด้านเอกชนหวังรัฐบาลสร้างความชัดเจนโดยเร็วที่สุด 


นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ได้เสนอ 2 แนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ปิโตรเลียมในเขตปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2560 ให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องการให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามวัตุประสงค์อื่น นอกเหนือจากเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างถาวร โดยแนวทางแรกเสนอระดับ ครม.ร่วมกันหาทางออก หรือเสนอระดับคณะกรรมการบริหารแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ที่มีรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมเป็นประธาน ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนว่าจะแก้กฎหมาย หรือออกประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ทำประโยชน์ได้ นอกเหนือจากการเกษตร หรืออาจจะใช้แนวทางปฏิบัติเหมือนกับโรงไฟฟ้าพลังงานลมการเช่าที่ดิน ส.ป.ก. โดยกำหนดให้มีการอำนวยประโยชน์ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่

“หากดูในแง่กฎหมาย ส.ป.ก.ในการแก้ไขปัญหาได้ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44 ในการดำเนินการ แต่หากไม่มีทางออกก็แล้วแต่รัฐบาลจะพิจารณา ซึ่งจากการหารือกับ 7 ผู้ประกอบการปิโตรเลียมที่ได้รับผลกระทบ ต่างไม่ PANIC กับคำสั่งศาลปกครองสูงสุดและเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่หวังว่ารัฐบาลจะมีความชัดเจนในการแก้ปัญหา เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2556” นายสราวุธ กล่าว


ทั้งนี้ หลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเรื่องดังกล่าว ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจึงแจ้งให้ผู้รับสัมปทานบนบกทุกรายหยุดกิจกรรมการผลิตปิโตรเลียมที่มีการดำเนินการอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.เป็นการชั่วคราว ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณปิโตรเลียมที่ผลิตได้ในประเทศ ประเมินความเสียหายเบื้องต้น คือ น้ำมันดิบลดลง 16,000 บาร์เรล/วัน ก๊าซธรรมชาติลดลง 110 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ก๊าซธรรมชาติเหลวลดลง 100 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 47 ล้านบาทต่อวัน ทำให้รัฐสูญเสียรายได้รูปแบบค่าภาคหลวงและภาษีเงินได้ปิโตรเลียมกว่า 26 ล้านบาท/วัน และค่าภาคหลวงที่จะกระจายสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลดลงไปกว่า 3.55 ล้านบาท/วัน 

โดยก่อนหน้านี้นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)  ระบุว่าจะเร่งแก้ไขปัญหาโดยอาจจะมีการแก้กฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส.ป.ก. มาตรา 19 (12) ให้ศาลปกครองวินิจฉัยแต่ต้องอยู่ในกรอบการปฏิรูปที่ดิน หรือเสนอให้นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ส.ป.ก.เพื่อดำเนินโครงการอื่นได้ เนื่องจากไม่มีระเบียบการคุมการสำรวจและการใช้พื้นที่ ส.ป.ก.แล้ว รวมถึงทุกโครงการไม่ว่าจะเป็นทองคำ พลังงาน น้ำมัน หรือโครงการที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ญาติแรงงานไทยเฮลั่นบ้านหลังเห็นภาพการปล่อยตัว

1 ปีกว่า กับการรอคอยสุดทรมาน แต่วันนี้ครอบครัวแรงงานไทย ทั้ง 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัว ยิ้มออก โล่งใจ บอกว่าเป็นวันที่รอคอย ปาฏิหาริย์มีจริง