สนช. รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 61

รัฐสภา 8 มิ.ย.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ใช้งบประมาณซื้อของจำเป็น เน้นทุกหน่วยใช้งบประมาณพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด วอน สนช.สนับสนุนช่วยผ่านกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ด้าน รมช.กลาโหม ยืนยัน จะใช้งบประมาณจัดหายุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นและทดแทนอาวุธที่ล้าสมัย ทัดเทียมกับต่างประเทศ หลังได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปี 2560



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ชี้แจงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561วงเงิน 2,900,000 ล้านบาท ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสร็จสิ้นในเวลา 12.30 น. ที่ประชุม สนช.จึงเปิดให้สมาชิก สนช.ทั้ง 18 คนที่แปรญัตติเริ่มอภิปราย โดยส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน แต่แสดงความเป็นห่วงกระทรวงที่ได้รับงบประมาณน้อย ไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน สมาชิกส่วนใหญ่จึงเสนอให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมเสนอปรับระบบจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะภาคธุรกิจใหญ่ๆ เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว รวมถึงสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นต้น ด้านพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิก สนช. แสดงความเป็นห่วงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และขอให้รัฐบาลชี้แจงว่า หนี้สาธารณะของปีนี้เพิ่มจากปีที่แล้วอย่างไร และมีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมเชิงประจักษ์ว่า มีโครงการใดในช่วง 1 ปี 6 เดือน ที่มีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น


จากนั้น รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆได้ชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิก โดยพลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหม ได้รับงบประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างใหม่ และรองรับแผนงานด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์และบูรณาการ พร้อมยืนยันว่า จะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น จะจัดหาตามความจำเป็นตามแผนพัฒนากองทัพที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณน้อย แต่ก็ได้รับเพิ่มขึ้นตามลำดับจนถึงปัจจุบัน เพื่อจัดหาอาวุธทดแทนในส่วนที่หมดอายุหรือล้าสมัยเพื่อให้กองทัพทัดเทียบกับประเทศอื่นๆ

ด้านนายวิสุทธ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ปี 2556 มีงบลงทุนเพียง ร้อยละ 18.7 แต่หลังจากรัฐบาลนี้เข้ามา ก็เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเศรษฐกิจปีหน้ายังขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงสรุปว่า ขอบอกข่าวดีถึงจัดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ (ไอเอ็มดี)  เป็นอันดับที่ 27 จากเดิมปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 28 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น สะท้อนความพยายามของไทยทุกภาคส่วนที่ปรับตัวดีขึ้น พร้อมยืนยันไม่ได้ใช้เงินในการทำให้การจัดอันดับสูงขึ้นอย่างที่มีการวิจารณ์จากบางกลุ่ม พร้อมยอมรับว่าเรื่องที่ไม่ดีมีอยู่จริงแต่จะต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป หากมัวแต่จับผิดประเทศจะเดินไปไม่ได้

ทั้งนี้ เห็นว่า จะต้องมีการค้นคว้าวิจัยต่อ ยอดในทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องมีการใช้งบจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็น หากสิ่งใดใช้ไม่ได้แล้วต้องเลิกใช้  ต้องปลดล็อคให้หมดทุกกระทรวง

นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลมองทุกประเด็น ทุกปัญหาว่ามีทางออก หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาลได้วางอนาคตตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในแผนแม่บทไว้แล้ว ภาครัฐต้องช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนด้วย ส่วนการจัดทำโพลมองว่าการถามไล่ไม่ใช่ไม่ได้ผล ต้องทำแบบตนอย่างที่ถามคำถาม 4 ข้อไป และคิดว่าต่อไปจะทำอีก เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลใดทำอย่างตนและไม่มาพูดทุกวันศุกร์ให้โดนว่าอย่างตน มีอะไรตนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็รับผิดชอบ 

“ความจริงน่าให้กระทรวงกลาโหมไปวิจัยเรื่องการทำเรือดำน้ำ แต่ใครจะกล้าดำลงไปยังไม่รู้เลย วันนี้เราต้องพัฒนาวิจัยด้านต่างๆให้งบประมาณกองทุนต่างไปพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพ ยันไม่ได้บูรณาการข้ามกระทรวงเพียงอย่างเดียวแต่ต้องใช้งบประมาณร่วมกันให้ได้ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเรื่องการสร้างรถไฟฟ้าเห็นว่ามีความสำคัญเพราะวันนี้จีนสร้างเชื่อมโยงกับหลายประเทศแล้ว ขณะที่สปป.ลาวก็สร้างแล้ว ตอนนี้ไทยช้ามา 3 ปี ติดขัดปัญหาหลายอย่าง ขอให้คำนึงว่า รถไฟมีทั้งขาไปและขากลับ ไม่ได้ขนของมาขายในประเทศอย่างเดียวแต่เราก็ได้ส่งออกด้วย จึงอยากขอสนช.มองเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย และสนับสนุนให้ช่วยผ่านกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ไม่เช่นนั้น ตนอาจต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงเสียที นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หากตนยังอยู่ในตำแหน่ง ปีหน้าการจัดทำงบประมาณจะต้องเข้มข้นกว่านี้ 

จากนั้น ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 วาระแรก ด้วยคะแนน 216 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว 50 คน กรอบเวลาดำเนินการ 90 วัน แปรญัตติ 15 วัน 

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 นี้ ลดลงจากงบประมาณปี 2560 จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท และตั้งเป็นงบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท โดยเป็นการจัดสรรตามยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 6 ยุทธศาสตร์ 56 แผนงาน เช่น ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง จำนวน 2.7 แสนล้านบาท ,ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ จำนวน 3.3 แสนล้านบาท และยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการน้ำ จำนวน 1.2 แสนล้านบาท สำหรับหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ 5.1แสนล้านบาท งบกลาง 3.9 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 3.5 แสนล้านบาท กระทรวงการคลัง 2.3 แสนล้านบาท และที่ถูกจับตาคือ กระทรวงกลาโหม 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย