สนช. รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 61

รัฐสภา 8 มิ.ย.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ใช้งบประมาณซื้อของจำเป็น เน้นทุกหน่วยใช้งบประมาณพัฒนาต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด วอน สนช.สนับสนุนช่วยผ่านกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ด้าน รมช.กลาโหม ยืนยัน จะใช้งบประมาณจัดหายุทโธปกรณ์ตามความจำเป็นและทดแทนอาวุธที่ล้าสมัย ทัดเทียมกับต่างประเทศ หลังได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปี 2560



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้เวลา 2.30 ชั่วโมง ชี้แจงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561วงเงิน 2,900,000 ล้านบาท ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เสร็จสิ้นในเวลา 12.30 น. ที่ประชุม สนช.จึงเปิดให้สมาชิก สนช.ทั้ง 18 คนที่แปรญัตติเริ่มอภิปราย โดยส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน แต่แสดงความเป็นห่วงกระทรวงที่ได้รับงบประมาณน้อย ไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน สมาชิกส่วนใหญ่จึงเสนอให้เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ พร้อมเสนอปรับระบบจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะภาคธุรกิจใหญ่ๆ เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจการท่องเที่ยว รวมถึงสวัสดิการผู้สูงอายุ เป็นต้น ด้านพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร สมาชิก สนช. แสดงความเป็นห่วงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และขอให้รัฐบาลชี้แจงว่า หนี้สาธารณะของปีนี้เพิ่มจากปีที่แล้วอย่างไร และมีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรมเชิงประจักษ์ว่า มีโครงการใดในช่วง 1 ปี 6 เดือน ที่มีหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น


จากนั้น รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆได้ชี้แจงข้อสงสัยของสมาชิก โดยพลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหม ได้รับงบประมาณ 2.2 แสนล้านบาท เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างใหม่ และรองรับแผนงานด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์และบูรณาการ พร้อมยืนยันว่า จะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพนั้น จะจัดหาตามความจำเป็นตามแผนพัฒนากองทัพที่กำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหมได้รับงบประมาณน้อย แต่ก็ได้รับเพิ่มขึ้นตามลำดับจนถึงปัจจุบัน เพื่อจัดหาอาวุธทดแทนในส่วนที่หมดอายุหรือล้าสมัยเพื่อให้กองทัพทัดเทียบกับประเทศอื่นๆ

ด้านนายวิสุทธ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ปี 2556 มีงบลงทุนเพียง ร้อยละ 18.7 แต่หลังจากรัฐบาลนี้เข้ามา ก็เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเศรษฐกิจปีหน้ายังขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด


ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงสรุปว่า ขอบอกข่าวดีถึงจัดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ (ไอเอ็มดี)  เป็นอันดับที่ 27 จากเดิมปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 28 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น สะท้อนความพยายามของไทยทุกภาคส่วนที่ปรับตัวดีขึ้น พร้อมยืนยันไม่ได้ใช้เงินในการทำให้การจัดอันดับสูงขึ้นอย่างที่มีการวิจารณ์จากบางกลุ่ม พร้อมยอมรับว่าเรื่องที่ไม่ดีมีอยู่จริงแต่จะต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป หากมัวแต่จับผิดประเทศจะเดินไปไม่ได้

ทั้งนี้ เห็นว่า จะต้องมีการค้นคว้าวิจัยต่อ ยอดในทุกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และต้องมีการใช้งบจัดซื้อสิ่งของที่จำเป็น หากสิ่งใดใช้ไม่ได้แล้วต้องเลิกใช้  ต้องปลดล็อคให้หมดทุกกระทรวง

นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลมองทุกประเด็น ทุกปัญหาว่ามีทางออก หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน ซึ่งรัฐบาลได้วางอนาคตตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในแผนแม่บทไว้แล้ว ภาครัฐต้องช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนด้วย ส่วนการจัดทำโพลมองว่าการถามไล่ไม่ใช่ไม่ได้ผล ต้องทำแบบตนอย่างที่ถามคำถาม 4 ข้อไป และคิดว่าต่อไปจะทำอีก เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลใดทำอย่างตนและไม่มาพูดทุกวันศุกร์ให้โดนว่าอย่างตน มีอะไรตนในฐานะนายกรัฐมนตรีก็รับผิดชอบ 

“ความจริงน่าให้กระทรวงกลาโหมไปวิจัยเรื่องการทำเรือดำน้ำ แต่ใครจะกล้าดำลงไปยังไม่รู้เลย วันนี้เราต้องพัฒนาวิจัยด้านต่างๆให้งบประมาณกองทุนต่างไปพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพ ยันไม่ได้บูรณาการข้ามกระทรวงเพียงอย่างเดียวแต่ต้องใช้งบประมาณร่วมกันให้ได้ด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนเรื่องการสร้างรถไฟฟ้าเห็นว่ามีความสำคัญเพราะวันนี้จีนสร้างเชื่อมโยงกับหลายประเทศแล้ว ขณะที่สปป.ลาวก็สร้างแล้ว ตอนนี้ไทยช้ามา 3 ปี ติดขัดปัญหาหลายอย่าง ขอให้คำนึงว่า รถไฟมีทั้งขาไปและขากลับ ไม่ได้ขนของมาขายในประเทศอย่างเดียวแต่เราก็ได้ส่งออกด้วย จึงอยากขอสนช.มองเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย และสนับสนุนให้ช่วยผ่านกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน ไม่เช่นนั้น ตนอาจต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงเสียที นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า หากตนยังอยู่ในตำแหน่ง ปีหน้าการจัดทำงบประมาณจะต้องเข้มข้นกว่านี้ 

จากนั้น ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 วาระแรก ด้วยคะแนน 216 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ก่อนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว 50 คน กรอบเวลาดำเนินการ 90 วัน แปรญัตติ 15 วัน 

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 นี้ ลดลงจากงบประมาณปี 2560 จำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท และตั้งเป็นงบขาดดุล 4.5 แสนล้านบาท โดยเป็นการจัดสรรตามยุทธศาสตร์ที่สำคัญ 6 ยุทธศาสตร์ 56 แผนงาน เช่น ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง จำนวน 2.7 แสนล้านบาท ,ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ จำนวน 3.3 แสนล้านบาท และยุทธศาสตร์ด้านการบริหารจัดการน้ำ จำนวน 1.2 แสนล้านบาท สำหรับหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ 5.1แสนล้านบาท งบกลาง 3.9 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 3.5 แสนล้านบาท กระทรวงการคลัง 2.3 แสนล้านบาท และที่ถูกจับตาคือ กระทรวงกลาโหม 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ