ศตส.แนะประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพช่วงวันธรรมดา

ทำเนียบรัฐบาล 2พ.ย.- ศตส.แนะประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพช่วงวันธรรมดาและเวลาราชการ เพื่อความสะดวกไม่ต้องรอคิวนาน มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโปรแกรมรองรับการจองคิวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์


นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.)กล่าวภายหลังการประชุมว่าการดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ผ่านมาพบว่ามีประชาชนได้เข้าถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันธรรมดาและเวลาราชการลดลง เมื่อเทียบกับช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลข วันแรกมีประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ มากถึง 3 หมื่นคน และวันอาทิตย์ มากถึง4หมื่นคน ส่วนวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นกว่าคน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนหมุนเวียนกันเข้ามมาสักการะพระบรมศพในวันธรรมดาและเวลาราชการเพราะจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน ซึ่งจะมีความสะดวกมากกว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

ขณะเดียวกัน ศตส.และ กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) จะมีการปรับพื้นที่ และตั้งเต้นท์ในโซนเหนือที่ติดกับสะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อรองรับประชาชนให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันอาทิตย์นี้ ส่วนการบริหารพื้นที่ท้องสนามหลวงยังยึดระบบเดิมคือเปิดให้ประชาชนเข้าพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. ซึ่งเป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน และเป็นการดำเนินการกับผู้ไร้บ้านและเร่ร่อนอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ได้สำรวจพบคนเร่ร่อนที่เข้ามาในพื้นที่ 375 คน จึงได้ให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้ามาดูแลและจัดทำทะเบียนถ่ายรูปและทำประวัติเอาไว้ และให้บางส่วนไปอยู่บ้านพักชั่วคราวที่ พม.จัดไว้ ส่วนกลุ่มที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ได้ ได้ขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ไปแล้ว แต่ทั้งนี้ไม่มีอำนาจบังคับเพราะเป็นเรื่องของความสมัครใจ และหลังจากนี้ พม.จะจัดสายตรวจและประสานงานร่วมกับกองอำนวยการร่วมเพื่อหาทางปฎิบัติกับคนกลุ่มนี้ให้ไปอยู่ในที่ พม.จัดให้ต่อไป


สำหรับการดูแลด้านการจราจร พบว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่อาจมีปัญหาในบางส่วน เช่น พื้นที่ทับซ้อนระหว่างเส้นทางการเดินทางมาของประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพและนักท่องเที่ยว หลังจากที่ได้เปิดให้มาท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่ง กอร.รส.จะหารือกับทุกฝ่ายและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต่อไป นอกจากนี้ การจัดการด้านระบบการแพทย์จะมีการคัดกรองบุคคลที่เข้าข่ายมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นซึ่งขณะนี้มี จิตวิทยาและทีมแพทย์คอยดูแลประจำบริเวณท้องสนามหลวง ขณะเดียวกัน เรื่องการจัดระบบการเข้าคิวของประชาชนเพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพใช้ระบบเดิมคือ การต่อคิวและการเข้าคิวแบบกลุ่ม แต่ยืนยันว่าไม่รับติดต่อจากองค์กรใดหรือกลุ่มใดเป็นพิเศษ ที่มาขอรับคิวแต่จะเปิดรับประชาชนเป็นหลักและใช้แบบคิวกลุ่มเหมือนเดิม

ส่วนการจองคิวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาจัดทำโปรแกรมเพื่อรองรับด้วย ทั้งนี้จะต้องดูความเสถียรและความปลอดภัย โดยคำนึงถึงคนที่มาต่อคิวในพื้นที่จริงแต่ละวันเป็นหลักด้วย พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่ให้ระบบมาสร้างปัญหาเพิ่มกับคนที่เข้ามาต่อคิวในพื้นที่จริง

ส่วนกรณีข่าวทางโซเชียลที่มีภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกเก็บเงินเพื่อลัดคิวให้กับคนที่มาสักการะพระบรมศพ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง จึงอยากให้เข้าใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วย เพราะทุกฝ่ายตระหนักดีถึงความตั้งใจและการดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างดีที่สุด ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่นายสุวพันธ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มสายตรวจและมีหลักปฎิบัติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาพรวมสถานการณ์ทั้งหมดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกหน่วยงานปฏิบัติได้ตามแผนแต่อาจจะมีการปรับแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตต่อไป แต่หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลหรือมีข้อสงสัยสามารถโทรมาที่เบอร์สายด่วน 1899.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

สั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” ปมเอื้อแล็บตรวจ BY2 ทุเรียนส่งออก

ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ลงนามในคำสั่งย้าย “อธิบดีกรมวิชาการเกษตร” มาช่วยราชการที่กระทรวงเกษตรฯ หลังมีหนังสือร้องเรียนเอื้อเอกชนเรียกรับเงินตรวจสอบสาร BY2 ทุเรียนส่งออก

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

“นฤมล” เผยได้รับหนังสือร้องเรียนอธิบดีกรมวิชาการเกษตรปมแล็บตรวจ BY2

รมว. เกษตรฯ เผยได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาคมผู้ค้าและผู้ส่งออกผลไม้ที่ขอให้ตรวจสอบอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับการเอื้อประโยชน์แล็บตรวจสาร Basic Yellow 2 (BY2)

ผลตรวจดีเอ็นเอ “ผกก.โจ้” ออกแล้ว ส่งให้ สน.ประชาชื่น

ออกแล้ว ผลตรวจผ้าขนหนู คดี “ผกก.โจ้” ไม่พบดีเอ็นเอของบุคคลอื่น เตรียมส่งผลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินการต่อ

กระบะตัดหน้ารถไฟ ชนสนั่น ตาย 4 เจ็บ 6

กระบะขนคนงานจับกุ้งกุลาดำ ขับตัดหน้ารถไฟ ก่อนพุ่งชนสนั่น ตายคาที่ 4 ศพ เจ็บระนาวอีก 6 ราย ขณะที่คนขับไร้อาการบาดเจ็บ อ้างไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน ตำรวจคุมตัวตรวจพบฉี่ม่วง เจ้าตัวยอมรับเสพยาบ้า ก่อนแจ้ง 2 ข้อหาหนัก

ข่าวแนะนำ

Ciudad Juarez gets a rosy view of a rare total lunar eclipse

แห่ชมจันทรุปราคาสีเลือด

เม็กซิโกซิตี 15 มี.ค.- เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศมีโอกาสได้รับชมปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงที่ทำให้พระจันทร์กลายเป็นสีแดงเข้ม และเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้ง ลาตินอเมริกาเป็นภูมิภาคหนึ่งที่สามารถรับชมจันทรุปราคาเต็มดวงได้ในเมืองใหญ่ของหลายประเทศ  โดยที่กรุงการากัส ของเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตาของโคลอมเบีย มีผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจมาร่วมชมปรากฎการณ์นี้ที่ท้องฟ้าจำลองของทั้ง 2 ประเทศได้จัดกิจกรรมรับชมจันทรุปราคาขึ้น ส่วนที่เม็กซิโก ผู้คนสามารถรับชมได้ตั้งแต่กรุงเม็กซิโกซิตี้ขึ้นไปถึงเมืองซิวดัดฮัวเรซทางภาคเหนือ โดยภาพของดวงจันทร์เมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎให้เห็นเป็นสีแดงเข้ม หรือที่เรียกกันว่าพระจันทร์สีเลือด  ข้อมูลขององค์การบริหารหารบินและอวกาศแห่งชาติหรือนาซาระบุว่า จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้กินเวลาทั้งหมด 66 นาที เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคลาตินอเมริกานับจากปี 2565 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายทวีปที่สามารถมองเห็นจันทรุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอเมริกาเหนือ บางส่วนของแอฟริกา และยุโรป ออสเตรเลียและญี่ปุ่น  ขณะที่บางพื้นที่จะมองเห็นจันทรุปราคาแบบไม่เต็มดวง.-816(814).-สำนักข่าวไทย

สะพานยกระดับถล่ม

“สุริยะ” เสียใจเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว

“สุริยะ” แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เหตุคานสะพานยกระดับทรุดตัว บริเวณด่านฯ ดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ลั่นก่อน เม.ย.68 มาตรการสมุดพกผู้รับเหมาเริ่มใช้ พบทำผิดสั่งหยุดงาน-งดร่วมทุกประมูลงาน มอบ กทพ. เร่งกู้คืนพื้นที่-ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

Marco Rubio's statement on Announcement of a Visa Restriction Policy on Thai offcials

สหรัฐเข้มงวดวีซ่า จนท.ไทย จากเหตุส่งอุยกูร์กลับจีน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐประกาศนโยบายเข้มงวดการออกวีซ่าให้แก่เจ้าหน้าที่ไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนจากไทยไปจีน