ไทยจับมือญี่ปุ่นบุกตลาดแอฟริกา

กรุงโตเกียว 5 มิ.ย. – ไทยลงนามร่วมพัฒนาเอสเอ็มอี กระทรวงพาณิชย์จับมือโตโยต้าทูโช ของญี่ปุ่นร่วมมือบุกตลาดแอฟริกา 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามกรมการค้าระหว่างประเทศกับบริษัท โตโยต้าทูโช (ประเทศไทย) จำกัด  ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการกระจายสินค้าของประเทศญี่ปุ่นมีสำนักงานในทวีปแอฟริกากว่า 53 ประเทศจากทั้งหมด 54 ประเทศ  จึงหวังเป็นพันธมิตกระจายสินค้าไทยสู่ทวีปแอฟริกา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมีประชากรกว่า 1,000 ล้านคน และขณะนี้ภาวะสงครามยุติตลาดกำลังโต  ปัจจุบันมีมูลค่าการค้าระหว่างไทยและแอฟริกากว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  โดยเฉพาะการส่งออกข้าวมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 50 ส่งไปแอฟริกาและสินค้าอื่น เช่น  เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ สินแร่ อัญมณี และสินค้าเกษตร จากนี้ไปเมื่อร่วมมือกับญี่ปุ่นแล้วไทยจะส่งออกได้โดยตรงจากเดิมใช้พ่อค้าคนกลางส่งไปแอฟริกา  คาดว่าภายหลังความร่วมมือครั้งนี้จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยและแอฟริกาเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 10  


ทั้งนี้ นายสมคิด และนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามระหว่างกรมส่งเสริมอุตหสากรรมและผู้ว่าราชการจังหวัดฟุกุชิมะ เนื่องจากมีศักยภาพในเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์และเครื่องมือแพทย์ครบวงจร ร่วมมือแบบเป็นคัสเตอร์เอสเอ็มอี เพราะเป็นอุตสหากรรมกลุ่มเป้าหมายของไทยและได้เชิญญี่ปุ่นไปร่วมงานแสดงสินค้าของไทยวันที่ 25-30 กรกฎาคม นอกจากนี้ ยังลงนามระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กลุ่มเครื่องมือแพทย์ กับ สวทช. และศูนย์ส่งเสริมพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์แห่งฟุกุชิมะ เพื่อหวังให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงร่วมกัน โดยคาดหวังให้เกิดการลงทุนภายในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อความร่วมมือพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 

นายสมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือร่วมกับกลุ่มผู้บริหาร Hitachi นอกจากผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังหันมาเน้นพัฒนาอุตหสกรรมด้านชิ้นส่วนระบบราง จึงต้องหารือกับกระทรวงคมนาคมเพิ่มในการพัฒนาระบบรางของไทย เนื่องจากญี่ปุ่นลงทุนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจำนวนมาก จึงเสนอให้รัฐบาลไทยสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าจากพระนครศรีอยุธยาต่อไปยังภาคตะวันออกเพิ่ม เพื่อส่งสินค้าจากภาคกลางไปยังท่าเรือมาบตาพุด เพราะขณะนี้ญี่ปุ่นแสดงเจตจำนงค์สร้างรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ-เชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทยอยนำ 3 ร่างผู้เสียชีวิตออกจากใต้ซากตึกถล่ม ส่งสถาบันนิติเวช

นำร่างผู้เสียชีวิต 3 ราย ออกจากใต้ซากอาคารถล่ม ทยอยเคลื่อนออกจากพื้นที่ ส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ด้านตำรวจเตรียมดำเนินคดีชาวจีน 4 คน ขนเอกสารอ้างเคลมประกัน

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท