เพชรบูรณ์ 2 มิ.ย.-เด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 ใช้มีดสปาต้า แทงนักเรียนรุ่นพี่ชั้น ม.4 เสียชีวิตขณะเข้าห้ามปรามเหตุทะเลาะวิวาทในโรงเรียน จ.เพชรบูรณ์
เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้มีดสปาต้ายาวประมาณ 6 นิ้ว แทงเด็กนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณข้างศาลาพักร้อน สนามหน้าอาคารเรียนในสถานศึกษาแห่งหนึ่งในเขต ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เด็กนักเรียนทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจที่ในห้องฉุกเฉิน และหลังเกิดเหตุเด็กนักเรียน ม.2 ที่ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าข้าวโพดข้างโรงเรียน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ เมื่อเวลา 21.30 น. วันเดียวกัน
ส่วนสาเหตุจากการสอบถามผู้อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า เด็กนักเรียนชั้น ม.2 มีปากเสียงทะเลาะกับเด็กนักเรียนชั้น ม. 2 ด้วยกัน แต่ผู้ตายเห็นว่าตนเองเป็นรุ่นพี่ จึงเดินเข้าไปหาเพื่อหวังที่จะเคลียร์ แต่กลับถูกแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว
ล่าสุดนายพงษ์ศักดิ์ กางถิ่น ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว (โรงเรียนน้ำร้อนวิทยาคม) กล่าวว่า ช่วงนี้ทางโรงเรียนเพิ่งเปิดเรียนมาได้เพียง 2 สัปดาห์ ทำให้การตรวจสอบคัดกรองประวัติเด็กนักเรียนยังไม่แล้วเสร็จ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุ เป็นเด็กนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง จากนี้ทางโรงเรียนได้เตรียมมาตราการเข้ม ในการตรวจสอบไม่ให้เด็กนักเรียนนำอาวุธและของมีคมเล็ดลอดเข้ามาในโรงเรียน
ส่วนศพของนายธเนตร ชุบขุนทด อายุ 15 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 นายมานพ ชุบขุนทด และนางสำลี คำกำพุฒ ซึ่งเป็นบิดามารดา ได้นำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 2 ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า
นางสำลี คำกำพุฒ กล่าวว่า ทันที่ที่ทราบข่าวแทบช็อกลงรถไม่ได้และไม่กล้าไปดูหน้าลูกจนหมอต้องพาไปพักในห้อง ส่วนเรื่องเด็กที่ก่อเหตุไม่ได้คิดแค้นอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย คิดว่าเป็นวิบากกรรมระหว่างเค้ากับลูกของเรา ตอนนี้ก็บอกที่หน้าศพลูกว่าไม่ให้จองเวรให้อโหสิกรรมกัน และไม่อยากให้มาขอขมา เพราะอาจจะทำให้เกิดความเครียดแค้นกันไม่จบ
ด้านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาลงพื้นที่เยี่ยมเยือน ทั้ง 2 ครอบครัว เบื้องต้นได้เยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย ครอบครัวละ 3,000 บาท และในระยะยาว จะมีงบประมาณกองทุนคุ้มครองเด็กจากทางกระทรวงฯ ไว้เยียวยาเด็กที่ครอบครัวประสบปัญหา ซึ่งขณะนี้กำลังรอฟังรายละเอียดจากทีมที่ลงพื้นที่ เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือต่อไป.-สำนักข่าวไทย
