ขอนแก่น 2 มิ.ย. – สำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดการไล่ล่า 3 ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ “น้องแอ๋ม” ที่ขอนแก่น ซึ่งหลบหนีไปยังฝั่งเมียนมาร์ ล่าสุดตำรวจพบเบาะแสสำคัญที่เชื่อได้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดอาจไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาข้ามชาติ แต่มีผู้พาหลบหนีหลังพบกันและพูดคุยกันถูกคอที่คาราโอเกะ
ชุดสืบสวนคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ “แอ๋ม” ร่วมประชุมกับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อติดตามความคืบหน้าการไล่ล่า น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ “เปรี้ยว” น.ส.กวิตา ราชดา หรือ “เอิร์น” และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ “แจ้” ผู้ต้องหาในคดี ที่หลบหนีไปฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ข้อมูลล่าสุดพบว่าหลังก่อเหตุฆ่าหั่นศพเหยื่อ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนเดินทางไปพักกับ น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ “เบนซ์” ซึ่งเข้ามอบตัวก่อนหน้านี้ จากนั้นวันที่ 25 พฤษภาคม ได้ข้ามไปเมียนมาร์ เพื่อทำงานที่ร้านคาราโอเกะ และได้พบกับกลุ่มชายไทย 3 คนที่ไปเที่ยวในร้านโดยบังเอิญ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดียาเสพติด และคาดว่าคุยกันถูกคอ จึงชวนกันไปเที่ยวต่อนอกร้าน จากนั้นผู้ต้องหาก็ไม่ติดต่อเข้ามอบตัวอีก เชื่อว่ากลุ่มชายไทยอาจทำให้ผู้ต้องหาเปลี่ยนใจไม่เข้ามอบตัว ซึ่งเมื่อคืนวานนี้ “เปรี้ยว” ยังติดต่อกับคนรู้จักผ่านทางเฟซบุ๊ก ทำให้เชื่อได้ว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่
ด้านครอบครัวของ “เปรี้ยว” ที่อาศัยอยู่ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ยังอ้อนวอนบุตรสาวผ่านสื่อให้กลับเข้ามามอบตัวเข้าสู่กระบวนยุติธรรม ซึ่งผู้ใหญ่บ้านห้วยบากได้เข้าเยี่ยมกับนางสาคร ภาษี
มารดาของผู้ต้องหาเพื่อให้กำลังใจ หลังทราบว่านางสาคร อาการป่วยกำเริบ เป็นโรคโลหิตจางและเบาหวาน อยู่ในสภาพอิดโรย โดยนางสาครกล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ไม่กล้าออกไปไหน เพราะกลัวว่าสังคมจะตีตราว่ามีลูกเป็นคนไม่ดี
ส่วนการจัดกำลังไล่ล่าร่วมกับตำรวจเมียนมาร์ที่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ล่าสุดได้ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในเมือง “โก” เขตรอยต่อจังหวัดท่าขี้เหล็ก ห่างจากร้านคาราโอเกะ 20 กิโลเมตร แต่ไม่พบเบาะแส ขณะที่ตำรวจเมียนมาร์อีกชุดพยายามเจรจากับกลุ่มว้า ที่เชื่อว่าผู้ต้องหาอาจไปกบดานอยู่ รวมถึงสถานบันเทิงที่เป็นเครือข่ายพันโทยี่เซ แต่ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย